กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 4.6904 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่ปรับตัวลง 0.7% ในเดือนเม.ย. และตัวเลขในเดือนพ.ค.ยังนับว่าสูงเกินคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่า ยอดสั่งซื้อจะขยับขึ้น 0.1-0.2%
ข้อมูลในเดือนพ.ค.แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวขึ้นทั่วทุกภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไปจนถึงรถยนต์และเครื่องบิน โดยความต้องการสินค้าคงทนทั้งหมดที่มีอายุการใช้งานอย่างต่ำ 3 ปี ขยายตัวขึ้น 1.3% ในเดือนพ.ค. หลังจากที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.3% ในเดือนเม.ย.
อย่างไรก็ตาม ภาคการผลิตของสหรัฐยังคงเผชิญกับความท้าทายที่ชัดเจน โดยคำสั่งซื้อภาคโรงงานได้ปรับตัวลงในช่วง 3 เดือน จากช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ และข้อมูลเมื่อวานนี้แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตสหรัฐร่วงลงเกินคาดในเดือนมิ.ย. และเข้าสู่ภาวะหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี นับเป็นก่ส่งสัญญาณว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจหยุดชะงัก
โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตร่วงลงแตะ 49.7 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 53.5 ในเดือนพ.ค. เนื่องจากยอดสั่งซื้อใหม่ดิ่งหนัก และตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2552 ที่ภาคการผลิตสหรัฐหดตัวลง