กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เรียกร้องให้สหรัฐบังคับใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการขยายของเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มย่ำแย่ลง พร้อมระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง
"แม้สภาวะด้านนโยบายการเงินยังคงอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายและเอื้ออำนวยเป็นอย่างมาก แต่เฟดก็ควรจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มย่ำแย่ลง" ไอเอ็มเอฟเปิดเผยในรายงาน หลังจากที่ได้ออกรายงานให้คำปรึกษารายปีต่อทางการสหรัฐ
ไอเอ็มเอฟขานรับการตัดสินใจของเฟดที่ได้ขยายเวลาการใช้มาตรการ Operation Twist ออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปในวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ และขายพันธบัตรระยะสั้นประเภทที่มีอายุไม่เกิน 3 ปีในวงเงินเท่ากัน แต่ก็ย้ำว่า "เฟดควรจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม หากเศรษฐกิจย่ำแย่ลง"
นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า นโยบายการเงินมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เฟดควรจะใช้มาตรการใดอย่างเฉพาะเจาะจง นางลาการ์ดตอบว่า "เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ที่จะต้องตัดสินใจ"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ไอเอ็มเอฟคาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอลงมาอยู่ที่ระดับ 2% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากอัตราการอุปโภคบริโภคยังคงอ่อนแอ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงขยายตัวเพียง 1.9% ในไตรมาสแรกของปี 2555 เนื่องจากการบริโภคส่วนบุคคลและการส่งออกปรับตัวลดลงอย่างมาก