ท่ามกลางวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ยืดเยื้อ นักวิเคราะห์และนักลงทุนทั่วโลกต่างก็รอดูผลการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ตามเวลายุโรป โดยคาดกันในวงกว้างว่าอีซีบีจะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลง ขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซนเผชิญภาวะถดถอย ต่างก็เป็นปัจจัยหนุนและผลักดันให้มีความเป็นไปได้ที่อีซีบีจะผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป
เมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในกลุ่มประเทศยูโรโซน ปรับตัวลง 0.5% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI ของยูโรโซนชะลอลงมาอยู่ที่ 2.3% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี จากระดับเดือนเม.ย.ที่ 2.6%
นักวิเคราะห์คาดว่าอีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25-0.5% จากระดับปัจจุบันที่ 1%
หลังการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) เพิ่งผ่านพ้นไปไม่กี่วัน อีซีบีก็เผชิญแรงกดดันมากขึ้นให้อีซีบีดำเนินการเพิ่มเติม ซึ่งไม่เพียงแต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ยังรวมถึงมาตรการพิเศษอื่นๆ แต่อีซีบีอาจจะไม่ประกาศมาตรการใดๆนอกเหนือไปจากมาตรการด้านนโยบายตามปกติ ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าอีซีบีต้องการทำหน้าที่พื้นฐานในฐานะธนาคารกลางแห่งหนึ่งโดยการใช้นโยบายทั่วๆไป และจะยังคงสร้างความกดดันต่อกลุ่มผู้นำยุโรปให้มีบทบาทและความรับผิดชอบมากขึ้นในการสะสางวิกฤตหนี้ของภูมิภาค
นักวิเคราะห์มองว่าอีซีบีอาจจะยังไม่พร้อมที่จะใช้มาตรการพิเศษเพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ แม้ว่าที่ประชุมสุดยอดอียูมีความคืบหน้าในการเสริมความแข็งแกร่งด้านการกำกับดูแลภาคธนาคารในยูโรโซน โดยให้อีซีบีมีบทบาทที่สำคัญ และยังเห็นพ้องกันว่ากลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) จะสามารถอัดฉีดเม็ดเงินโดยตรงแก่ธนาคารที่ประสบปัญหา เมื่อยูโรโซนจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลที่ชัดเจน
สำหรับแผนการซื้อพันธบัตรหรือการจัดสรรสภาพคล่องเพิ่มเติมสำหรับธนาคารในภูมิภาค เช่น การปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะ 3 ปีที่เคยดำเนินการในเดือนธ.ค.2554 และเดือนก.พ.ปีนี้เพื่ออัดฉีดเม็ดเงิน 1 ล้านล้านยูโรสู่ระบบธนาคารของยุโรปนั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องช่วยหนุนการขยายตัว และอาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วของอีซีบีระบุว่าการปล่อยกู้ของภาคเอกชนยังคงอ่อนแรง จากอุปสงค์ที่ซบเซา แม้ว่าภาคธนาคารมีเม็ดเงินส่วนเกินจำนวนมาก
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดว่าอีซีบีจะปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนลงจากระดับปัจจุบันที่ 0.25% เพื่อเป็นแนวทางหนึ่งในการกระตุ้นการปล่อยกู้ระหว่างธนาคารและสกัดกั้นไม่ให้ธนาคารต่างๆนำเม็ดเงินส่วนเกินมาฝากไว้กับอีซีบี โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนคืออัตราดอกเบี้ยที่อีซีบีจ่ายให้กับธนาคารพาณิชย์สำหรับเงินฝากที่มีอยู่กับอีซีบี
ทั้งนี้ สภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่แนวทางที่จะขจัดปัญหาในภูมิภาค แต่อยู่ที่การฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อยูโรโซน ดังนั้นจึงไม่มีแนวโน้มที่อีซีบีจะประกาศมาตรการพิเศษในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ โดยอีซีบีมีกำหนดจะแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในเวลาประมาณ 18.45 น.ตามเวลาไทย