นายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติของอิตาลีกล่าวหลังการพบปะกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนีในกรุงโรมว่า อิตาลีและเยอรมนีสามารถร่วมกันช่วยให้ยุโรปพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจได้
นายมอนติกล่าวในการแถลงข่าวร่วมว่า อิตาลีและเยอรมนีอยู่ในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ที่แสดงเจตนารมณ์มากที่สุดในการร่วมมือกัน ซึ่งจะหมายถึงเครื่องมือด้านนโยบายเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อทำให้อียูโดยรวมมีศักยภาพในการแข่งขัน โดยมีเยอรมนีเป็นตัวอย่างที่แข็งแกร่ง
ผู้นำอิตาลีระบุว่าอิตาลีไม่ต้องการความช่วยเหลือจากต่างประเทศ จึงจะไม่ร้องขอความช่วยเหลือใดนอกเหนือจากกลไกช่วยเหลือในปัจจุบันในอียู เนื่องจากอิตาลีไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกันกรีซ ไอร์แลนด์และโปรตุเกส
“รัฐบาลอิตาลีมีวัตถุประสงค์ที่จะดำเนินแนวทางด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสมดุลงบประมาณ วินัยการคลังและปฏิรูปเชิงโครงสร้างสู่การขยายตัว ซึ่งเราหวังว่าจะเกิดขึ้นเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
นางเมอร์เคลเห็นพ้องว่าอิตาลีและเยอรมนีต้องการที่จะร่วมมือกันจัดการกับความไม่แน่นอนทั้งหมดและความอ่อนแอของยุโรป
“หากเพื่อนบ้านในยุโรปของเราตกอยู่ในวิกฤต เยอรมนีเองก็จะมีปัญหาด้วย จึงนับเป็นประโยชน์ของเราที่ประเทศอื่นๆมีความคืบหน้าทางเศรษฐกิจในเชิงบวก มิฉะนั้นเยอรมนีจะไม่สามารถคงความเจริญรุ่งเรืองต่อไปได้" ผู้นำเยอรมนีกล่าว
การพบปะครั้งมีขึ้นหลังการประชุมสุดยอดอียูเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งนายมอนติประสบความสำเร็จในการเรียกร้องให้ใช้เม็ดเงินจากกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกลไกช่วยเหลือถาวรของภูมิภาค เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมของประเทศที่ประสบปัญหา
“ในบรัสเซลส์ เราได้หารือมาตรการใหม่ๆในระยะใกล้ ผมมีความพอใจเช่นเดียวกับสมาชิกทั้ง 17 ประเทศของยูโรกรุ๊ป เนื่องจากได้มีข้อสรุปที่เป็นเอกฉันท์" นายมอนติกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน