หนังสือพิมพ์จาการ์ต้า โพสต์ รายงานโดยอ้างผลการสำรวจของเอชเอสบีซีว่า ผู้ส่งออกและนำเข้าของอินโดนีเซียยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกในเรื่องภาวะการค้าระหว่างประเทศของอินโดนีเซียในช่วงอีก 6 เดือนข้างหน้า ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตในยูโรโซนก็ตาม
นางเนียร์มาลา ซาลลี หัวหน้าฝ่ายการค้าระหว่างประเทศและการชำระเงินประจำอินโดนีเซียของเอชเอสบีซี กล่าวว่า 61% จากจำนวนผู้ส่งออกและนำเข้าของอินโดนีเซีย 308 รายระบุว่า คาดว่ามูลค่าการค้าจะเพิ่มขึ้นในช่วงอีก 6 เดือนข้างหน้า
"ผู้ส่งออกและนำเข้าของอินโดนีเซียยังคงมีมุมองในแง่บวกเกี่ยวกับภาวะการค้าระหว่างต่างประเทศของอินโดนีเซีย ถึงแม้ว่าจะเกิดวิกฤตก็ตาม" เธอกล่าว
นางเนียร์มาลาระบุว่า ผลการสำรวจพบว่า เทรดเดอร์ของอินโดนีเซียอยู่ในกลุ่มที่มีมุมมองที่เป็นบวกมากที่สุดในการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นด้านการค้าของเอชเอสบีซีเห็นใน 20 ประเทศ โดยค่าดัชนีของอินโดนีเซียอยู่ที่ 130 จุด สูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกที่ 113 จุด อยู่ 17 จุด
ในขณะเดียวกัน ตัวเลขดัชนีของอินโดนีเซียยังสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเหนือกว่าทั้งสิงคโปร์และเวียดนาม ซึ่งต่างก็อยู่ที่ 115 จุด และ มาเลเซีย 111 จุดตามลำดับ
ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวเป็นการสอบถามความคิดเห็นจากผู้ส่งออกและนำเข้าจำนวน 5,800 รายจาก 20 ประเทศ โดยค่าดัชนีอยู่ระหว่างช่วง 0-200 จุดและ 100 จุดเป็นค่ากลาง
"ตัวเลขดัชนีของอินโดนีเซียลดลง 14 จุด จาก 144 จุดในการสำรวจในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งมีขึ้นในระหว่างเดือนมิถุนายน-ธันวาคมปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ดี ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าของอินโดนีเซียยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกในเรื่องการค้า ถึงแม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลง" นางเนียร์มาลากล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน