นายสินธุ์ เภตรารัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท นีลเส็น ฝ่ายมีเดีย กล่าวว่า จากการสำรวจของนีลเส็นพบว่า สื่ออินเตอร์เน็ทและออนไลน์คือทางออกของผู้ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรผ่านทางโทรทัศน์ได้ โดยนอกจากยูโร 2012 จะมีอัตราการรับชมผ่านสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้นจากยูโร 2008 ถึง 22% แล้ว คนไทย 5 จาก 100 คนยังเลือกที่จะรับชมฟุตบอลผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต ซึ่งเป็นสถิติที่พุ่งขึ้นจาก 4 ปีที่แล้วถึง 20%
"หากกลุ่มสื่อออนไลน์มีการวางแผนการตลาดที่ดี โอกาสในการก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญในการรับชมฟุตบอลโลกในสองปีข้างหน้าก็อยู่ไม่ไกล" นายสินธู กล่าว
อย่างไรก็ดี โทรทัศน์ก็ยังเป็นสื่อหลักที่คนไทยใช้รับชมการกีฬาต่างประเทศโดยมีการเข้าถึงผู้ชมจากทั่วประเทศอยู่ที่ 46% (ไม่รวมการรับชมผ่านกล่องทีวีดาวเทียม จีเอ็มเอ็ม แซด)
อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ทั่วประเทศลดลงจากเมื่อสี่ปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัดถึงเกือบ 25% จากเรตติ้งเฉลี่ยต่อนาทีทั่วประเทศในปี 2008 ที่ 2.23 เหลือเพียง 1.68 ในปี 2012 ขณะที่เรทติ้งเขตกรุงเทพและปริมณฑลตกลงประมาณ 15% จาก 3.24 อยู่ที่ 2.73
เมื่อมีผู้ชมจำนวนหนึ่งหันมารับชมผ่านสื่ออินเตอร์เน็ต ส่งผลให้มีการพูดถึงฟุตบอลยูโร 2012 บนอินเตอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์คมากขึ้นตามไปด้วย โดยสเปน เจ้าของแชมป์ยูโร 2012 ได้รับการกล่าวถึงบนโลกอินเตอร์เน็ตมากที่สุดอยู่ที่ 25% ตามมาด้วยอิตาลี 20% และอังกฤษและเยอรมันที่ 17%
“เนื่องจากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 มีข้อจำกัดทางการรับชมค่อนข้างมาก แฟนบอลที่เคยรับชมผ่านช่องทางเดิมจึงต้องคิดหาหนทางใหม่ เปลี่ยนไปรับชมจาก อินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเปิดศักราชการถ่ายทอดสดผ่านสื่อออนไลน์" นายสินธุ์ กล่าว