นักลงทุนทั่วโลกยังไม่เชื่อมั่นศก. แม้แบงก์ชาติหลายแห่งผ่อนคลายนโยบาย

ข่าวต่างประเทศ Friday July 6, 2012 09:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ในช่วงเย็นวานนี้ ตามเวลาไทย ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางอังกฤษต่างออกมาเปิดเผยมติการประชุมนโยบายการเงินตามกำหนดที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ โดยทิศทางนโยบายล้วนเป็นไปในเชิงผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในภาวะซบเซา ส่วนเรื่องที่สร้างความประหลาดใจแก่ตลาดก็คือการที่ธนาคารกลางจีนได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอลงต่ออีกในช่วงไตรมาส 2

อีซีบีมีมติลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ตามคาด และนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมที่กรุงแฟรงก์เฟิร์ตว่าการตัดสินใจลดดอกเบี้ยของอีซีบีครั้งนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเงิน ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ตามปกติ

ประธานอีซีบีระบุว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจในยูโรโซนเผชิญกับภาวะขาลงนั้น เริ่มปรากฎชัดขึ้น ส่วนการคาดการณ์เงินเฟ้อของยูโรโซนยังคงมีทิศทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายของอีซีบีที่จะรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ แต่ตัวเลขดังกล่าวก็อยู่ใกล้ระดับ 2% ในระยะกลาง ในขณะที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนยังคงอ่อนแอ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาวะการลงทุนในตลาด

ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) เมื่อวานนี้ พร้อมประกาศขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 5 หมื่นล้านปอนด์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ส่วนธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.31% โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ การดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นในช่วงไม่ถึง 1 เดือนหลังจากธนาคารกลางจีนได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. โดยเป็นการปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ลงประเภทละ 0.25% และนับเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของจีนนับแต่เดือนธ.ค.2551

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นและตลาดการเงินทั่วโลกไม่ได้ขานรับการดำเนินการของธนาคารกลางรายใหญ่ดังกล่าว ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเพราะว่าเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับนักลงทุนและตลาดส่วนใหญ่คาดไว้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังที่อีซีบีปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% แทนที่จะดำเนินมาตรการที่แข็งแกร่งกว่านี้ในการควบคุมวิกฤตหนี้ แม้อีซีบีจะยอมรับว่าเริ่มมีความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนปรากฏให้เห็นแล้วก็ตาม

อันโตนิโอ เรนิส นักวิเคราะห์จากเอบีเอส ซิเคียวริตีส์ในกรุงมิลาน กล่าวว่า "แม้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นสัญญาณในด้านบวก แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะแก้ปัญหาสภาพคล่องตึงตัวในระบบ ซึ่งนักลงทุนคาดหวังเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า อีซีบีจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินเพื่อคลี่คลายปัญหาให้กับประเทศที่เผชิญวิกฤตหนี้"

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ก็ยังบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังอ่อนแอ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ภาคบริการของสหรัฐขยายตัวเป็นเดือนที่ 30 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย. แต่ในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง โดยดัชนีภาคบริการลดลงแตะ 52.1 จากระดับ 53.7 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนีภาคบริการของ ISM ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากแรงงานหลักของสหรัฐอยู่ในภาคบริการ โดยดัชนีนี้ถือเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งโดยรวมของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากที่ในช่วงต้นสัปดาห์ ISM เปิดเผยว่าภาคการผลิตสหรัฐร่วงลงเกินคาดในเดือนมิ.ย. และเข้าสู่ภาวะหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ส่งสัญญาณว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจหยุดชะงัก

ทั้งนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐ ยูโรโซน จีน รวมถึงทั่วโลกที่อยู่ในภาะชะลอตัวยังคงเป็นสิ่งที่ยังสร้างความวิตกแก่นักลงทุนจำนวนมาก ประกอบกับมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางที่สำคัญๆไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้มากนัก โดยนักลงทุนมองว่าการดำเนินการของธนาคารกลางต่างๆอาจยังไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนหลังจากที่เผชิญภาวะย่ำแย่มาเป็นเวลานาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ