สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่า พลังงานหมุนเวียนจะมีความสำคัญมากขึ้นต่อการผลิตไฟฟ้าและความมั่นคงทางพลังงานในอีก 5 ปีถัดไป
IEA เปิดเผยในรายงานตลาดพลังงานหมุนเวียนระยะกลางประจำปี 2555 ว่า ปริมาณการใช้พลังงานหมุนเวียนมีแนวโน้มจะ “เติบโตอย่างรวดเร็วต่อไปในอีก 5 ปีข้างหน้า แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในหลายประเทศก็ตาม"
IEA เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การผลิตไฟฟ้าทั่วโลก ทั้งจากพลังงานลม แสงอาทิตย์ และพลังน้ำ จะเพิ่มสูงขึ้นกว่า 40% สู่ระดับเกือบ 6,400 เทราวัตต์ (TWh) เนื่องจากคาดว่ากำลังการผลิตจะขยายตัว
มาเรีย ฟาน เดอ โฮเวน กรรมการบริหารของ IEA กล่าวว่า “พลังงานหมุนเวียนกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และกำลังการผลิตในหลายประเทศที่ย้ายจากตลาดที่ต้องมีผู้สนับสนุนไปสู่ภาคส่วนใหม่ที่แข่งขันกันมากขึ้น" ทั้งนี้ เมื่อปี 2554 ภาคการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วสร้างรายได้คิดเป็นมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ข้อมูลเมื่อเร็ววันนี้ระบุว่า การลงทุนในปีนี้ชะลงตัวลง เนื่องจาก“ต้นทุนและการจัดหาเงินทุนจะต้องพึ่งนโยบายทั่วไปและเทคโนโลยีมากขึ้น"
รายงานของ IEA ครั้งล่าสุดระบุเพิ่มเติมว่า การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจะเปลี่ยนจากประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา(OECD) ซึ่งมีจีนเป็นผู้ผลิตเกือบ 40% ของกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกจำนวน 710 กิโลวัตต์ไปยังตลาดเกิดใหม่
รายงานยังเผยอีกว่า ด้วยความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว, เป้าหมายของรัฐบาลที่จะส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน และแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำที่มีมากพอ ได้ยังผลให้เศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังเติบโตกลายเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีแบบไม่ใช้พลังน้ำ สำนักข่าวซินหัวรายงาน