นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการมอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ(คต.) เดินทางไปเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(G to G) กับรัฐบาลประเทศโกตดิวัวร์เมื่อปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าการเจรจาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยรัฐบาลโกตดิวัวร์ตกลงซื้อข้าวจากไทยในปริมาณ 2.4 แสนตัน ประกอบด้วยข้าว 4 ชนิด คือ ข้าวขาว 5%, ข้าวหอมมะลิไทย 100% ชั้น 2, ปลายข้าวหอมมะลิไทยเอวันเลิศ และปลายข้าวหอมมะลิไทยเอวันเลิศพิเศษ รวมเป็นมูลค่า 4,350 ล้านบาท
ทั้งนี้มีกำหนดส่งมอบข้าวภายใน 6 เดือน โดยราคาที่ได้ขายให้กับโกตดิวัวร์เป็นราคาที่ถือว่าใกล้เคียงกับราคาตลาด โดยได้คำนึงถึงความสัมพันธ์ทางการค้าในระยะยาวระหว่างสองประเทศ
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ผลสำเร็จของการตกลงครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือทางด้านการค้าข้าวในปีต่อไป และที่สำคัญถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลไทยสามารถเจรจาขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐให้กับรัฐบาลโกตดิวัวร์ได้เป็นผลสำเร็จ โดยที่ผ่านมาโกตดิวัวร์นำเข้าข้าวจากต่างประเทศปีละประมาณ 9 แสนตัน ซึ่งไทยเป็นแหล่งนำเข้าข้าวสำคัญอันดับหนึ่งของโกตดิวัวร์ ที่ครองส่วนแบ่งตลาดข้าว 58% ของการนำเข้าข้าวทั้งหมดของโกตดิวัวร์
นายบุญทรง กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยได้เสนอให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่อง การค้าข้าวระหว่าง 2 ประเทศระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลโกตดิวัวร์ ในกรอบปริมาณการค้าไม่เกิน 1 ล้านตัน ในระยะเวลา 5 ปี (2555-2560) ซึ่งไทยได้จัดทำ MOU กับรัฐบาลของหลายประเทศแล้ว เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และบังกลาเทศ เป็นต้น
ทั้งนี้ รัฐบาลโกตดิวัวร์เห็นด้วยกับข้อเสนอของฝ่ายไทยเพื่อเป็นการสร้างหลักประกันด้านอาหารในประเทศ โดยจะนำเสนอประธานาธิบดีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน ซึ่งหากมีการจัดทำ MOU ดังกล่าว ไทยจะมีตลาดรองรับการส่งออกข้าวที่สำคัญอีกตลาดหนึ่ง
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศมีแผนที่จะเจรจาซื้อขายข้าวกับ BULOG ของอินโดนีเซียภายในเดือนก.ค.นี้และอีกหลายประเทศ ซึ่งเป็นการดำเนินการขายข้าวแบบ G to G อย่างต่อเนื่อง โดยการส่งออกข้าวของไทยในปีนี้คาดว่าจะบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ 9.5 ล้านตัน อย่างแน่นอน