นายแอนโทนิส ซามาราส นายกรัฐมนตรีกรีซ แถลงแผนนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ต่อรัฐสภา โดยมุ่งเน้นไปที่การเจรจาต่อรองเงื่อนไขการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินกับเจ้าหนี้ต่างประเทศ รวมถึงการเร่งปฏิรูปเชิงโครงสร้าง
“การเจรจาต่อรองใหม่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเป้าหมาย แต่เป็นการขจัดอุปสรรคเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนการเพื่อจัดการกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพื่อที่เราจะได้บรรลุเป้าหมาย" เขากล่าว
นายซามาราสเน้นย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงแผนการปฏิรูปการขยายตัวและการสร้างเสถียรภาพที่รัฐบาลกรีซเริ่มดำเนินการเมื่อปี 2553 เพื่อแลกกับการขอรับเงินช่วยเหลือมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศนั้น จะต้องดำเนินการผ่านการเจรจาหารือกับเจ้าหนี้ ไม่ใช่การดำเนินการโดยฝ่ายเดียว
นายซามาสราสกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวในการอภิปรายระยะเวลา 3 วัน ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อคืนนี้ และจะสิ้นสุดลงด้วยการลงมติไว้วางใจรัฐบาลในคืนวันอาทิตย์นี้
ภายใต้รัฐธรรมนูญกรีซ รัฐบาลชุดใหม่ต้องผ่านการลงมติไว้วางใจจากสภานิติบัญญัติ ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งภายใน 15 วัน ซึ่งนายซามาราส หัวหน้าพรรคนิวเดโมเครซี ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ได้จัดตั้งรัฐบาลผสม 3 พรรคและสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.
ภายหลังจากทำพิธีสาบานตน นายซามาราสได้สัญญาว่าจะพูดความจริงกับประชาชนชาวกรีซ ซึ่งเขาก็เริ่มต้นด้วยการยอมรับว่า การดำเนินแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการรัดเข้มขัดขึ้นรุนแรงนั้น ได้ออกนอกแนวทางที่กำหนดไว้ไปบางส่วน ซึ่งทำให้พลาดเป้าหมายบางประการ
เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดในการนำพากรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้และเพื่อให้กรีซอยู่ในยูโรโซนต่อไป นายซามาราสได้ให้คำมั่นว่า รัฐบาลใหม่จะให้ความสำคัญกับการขยายและเร่งดำเนินแผนการแปรรูปกิจการรัฐเป็นเอกชนและการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจ
“เราจะต้องลดยอดขาดดุลงบประมาณลงให้ได้ 1 พันล้านยูโร ต่อการขยายตัวของจีดีพี 1%" เขากล่าว