โตเกียว โชโก รีเสิร์ช ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านสินเชื่อของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนบริษัทที่ล้มละลายในญี่ปุ่นในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2555 ปรับตัวลดลง 3.2% จากปีก่อน มาอยู่ที่ระดับ 6,311 ราย
ตัวเลขหนี้สินโดยรวมของบริษัทที่ล้มละลายในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 20.5% สู่ระดับ 2.77 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกสำหรับช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.ในรอบ 3 ปี ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้นมาจากการล้มละลายของบริษัทเอลพิดา เมโมรี อิงค์ ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา นับว่าเป็นการปิดกิจการของผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา ซึ่งส่งผลให้เกิดหนี้จำนวน 4.48 แสนล้านเยน
ส่วนจำนวนบริษัทล้มละลายในญี่ปุ่นซึ่งมีหนี้สินอย่างน้อย 10 ล้านเยนน้น ร่วงลง 15.4% มาอยู่ที่ระดับ 203 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 เมื่อเทียบเป็นราย 6 เดือน และเป็นจำนวนต่ำสุดในรอบ 20 ปี อันเป็นผลมาจากโครงการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินของรัฐบาล ขณะที่จำนวนบริษัทล้มละลายซึ่งมีหนี้สินน้อยกว่า 100 ล้านเยน มีสัดส่วน 70.2% ของยอดรวมทั้งหมด
จำนวนบริษัทล้มละลายอันเนื่องมาจากผลกระทบของเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิซึ่งเกิดขึ้นในเดือนมี.ค. 2554 นั้น มีอยู่ทั้งสิ้น 272 รายในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ หรือโดยเฉลี่ยล้มละลาย 45.3 รายต่อเดือน
นอกจากนี้ โตเกียว โชโก รีเสิร์ชระบุว่า เฉพาะในเดือนมิ.ย.เพียงเดือนเดียว จำนวนบริษัทล้มละลายของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 16.3% จากปีก่อน สู่ระดับ 975 ราย ทำสถิติลดลงต่ำกว่า 1,000 รายเป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี ขณะที่หนี้สินของบริษัทล้มละลายในเดือนมิ.ย.ลดลง16% สู่ ดะย1.8161 แสนล้านเยน ซึ่งลดลงต่ำกว่า 2 แสนเยนเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน