สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ปรับตัวลง 17 เซนต์ แตะที่ 85.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.58 น.ตามเวลาในลอนดอนวันนี้ หลังพุ่งแตะระดับ 85.99 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ 5 ก.ค.
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอน ลดลง 85 เซนต์ หรือ 0.9% แตะที่ 99.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ในรอบ 4 วัน หลังรัฐบาลนอร์เวย์ได้ยุติข้อพิพาทตลอดระยะเวลา 16 วันระหว่างคนงานบริษัทขุดเจาน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่ง และบริษัทนายจ้าง ซึ่งถือเป็นการยุติความเป็นไปได้ที่จะการระงับการผลิตน้ำมันในนอร์เวย์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่สุดของยุโรปตะวันตก
หัวหน้าการเจรจาของสมาคมอุตสาหกรรมน้ำมัน (OLF) ของนอร์เวย์ กล่าวว่า ทางสมาคมมีความพอใจที่ไม่ต้องมีการระงับการผลิต แต่หากรัฐบาลไม่ดำเนินการใดๆ ทางสมาคมก็อาจจำเป็นต้องทำเช่นนั้น
การแทรกแซงของรัฐบาลนอร์เวย์มีขึ้นหลังจากสมาคม OLF ซึ่งประกอบไปด้วยคนงานของบริษัทสแตทออยล์, เอ็กซอน โมบิล และบีพี ขู่ว่าจะระงับการผลิตทั้งหมดตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้เป็นต้นไป
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ก.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะปรับขึ้น 500,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.3%