อินโดนีเซียยืนยันเตรียมปล่อยกู้ 1 พันล้านดอลลาร์ให้แก่องค์กรการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ขณะที่ไอเอ็มเอฟแสดงความชื่นชมเศรษฐกิจของอินโดนีเซียพร้อมกันกับเตือนให้อินโดนีเซียดำเนินมาตรการทางการเงินด้วยความรอบคอบเพื่อรับมือความเสี่ยงในอนาคต
นายดาร์มิน นาซูติออน ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียกล่าวว่า ทางธนาคารจะซื้อพันธบัตรของไอเอ็มเอฟ และสินเชื่อ 1 พันล้านดอลลาร์จากอินโดนีเซียจะเป็นแนวป้องกันขั้นที่สอง (second line defence) และจะยังคงมีอยู่ในทุนสำรองของอินโดนีเซีย
ในปัจจุบัน ไอเอ็มเอฟมีเงินกองทุนอยู่ที่ 4.36 แสนล้านดอลลาร์
นางคริสติน ลาการ์ด ผู้ว่าอำนวยการไอเอ็มเอฟระบุว่า เศรษฐกิจของอินโดนีเซียแข็งแกร่งและสดใส เนื่องจากเศรษฐกิจเคลื่อนไหวในทิศทางเชิงบวก แต่ยังจำเป็นต้องมีนโยบายการเงินที่รอบคอบเพื่อรับมือความเสี่ยงวิกฤติหนี้สินในยุโรป
"โดยรวมแล้ว นางลาการ์ดชื่นชมเศรษฐกิจของเราโดยพูดถึงความแข็งแกร่งและแนวโน้มที่สดใส" นายโยปี ฮิดายัต โฆษกประจำสำนักรองประธานาธิบดีระบุถึงคำกล่าวของนางลาการ์ดครั้งเมื่อพบรองประธานาธิบดีโบดิโอโน
ปัจจัยพื้นฐานและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่งของอินโดนีเซียช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากวิกฤติการเงินโลกในปี 2551-2552 โดยเศรษฐกิจของประเทศขยายตัว 4.5% ขณะที่ประเทศอื่นๆในเอเชียประสบกับภาวะเศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรง และเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา อินโดนีเซียได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือสู่ระดับน่าลงทุนจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของอินโดนีเซียขยายตัวกว่า 6% นับตั้งแต่ปี 2553 และสำหรับในปีนี้รัฐบาลคาดว่าจะขยายตัว 6.5% ขณะเดียวกันธนาคารกลางอินโดนีเซียคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นในกรอบ 3.5 - 5.5% สำนักข่าวซินหัวรายงาน