สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ในระยะใกล้นี้ นอกจากว่าเศรษฐกิจจะหดตัวอย่างรุนแรงเท่านั้น
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.21% แตะที่ 1.2223 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคาร 1.2249 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.16% แตะที่ 1.5489 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5514 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.30% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.640 เยน จากระดับ 79.400 เยน และแข็งค่าขึ้น 0.21% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9822 ฟรังค์ จากระดับ 0.9801 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.37% แตะที่ 1.0226 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0188 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดตัวขึ้น 0.24% แตะที่ 0.7954 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7935 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ที่ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการ QE3 โดยเฟดเพียงแต่ประกาศขยายเวลาการใช้มาตรการ Operation Twist ไปจนถึงสิ้นปี 2555 ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าว คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีได้ตัดสินใจขยายระยะเวลาการใช้มาตรการ Operation Twist ด้วยการซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปในวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ และขายพันธบัตรระยะสั้นประเภทที่มีอายุไม่เกิน 3 ปีในวงเงินเท่ากัน โดยจะดำเนินมาตรการดังกล่าวไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อที่จะฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ปรับตัวลดลง
ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 3.8% สู่ระดับ 4.868 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ราว 4.87 หมื่นล้านดอลลาร์
ปัจจัยที่ทำให้ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ค.ปรับตัวลดลงนั้น มาจากยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้น 0.2% ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 0.7% เนื่องจากราคาน้ำมันชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากกความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลก
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปในวันนี้ โดยในเวลา 12.30 น.วันนี้ตามเวลาไทย ฝรั่งเศสจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ฝรั่งเศสเดือนมิ.ย. และจากนั้นเวลา 16.00 น.ตามเวลาไทย สหภาพยุโรป (อียู) จะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมของกลุ่มประเทศอียูประจำเดือนเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ด้วยเช่นกัน โดยในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย สหรัฐจะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกประจำเดือนมิ.ย. และจากนั้นเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์