นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รายได้รัฐบาลสุทธิเดือนมิถุนายน 55 จัดเก็บรายได้ 133,455 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 6,604 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 55 (ตุลาคม 54 — มิถุนายน 55) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิสูงกว่าเป้าหมาย 10,255 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายน 55 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 133,455 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6,604 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.2 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 21.2) สาเหตุสำคัญมาจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากเหตุการณ์อุทกภัยและผลจากโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกตามนโยบายของรัฐบาล ทำให้ภาษีรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการถึง 3,226 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.0
นอกจากนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2,807 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.8 และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2,657 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.1 และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 1,913 ล้านบาท เนื่องจากการไฟฟ้านครหลวงได้นำส่งรายได้จำนวน 1,052 ล้านบาท (จากที่ประมาณการว่าจะนำส่งเมื่อเดือนเมษายน 2555) ส่วนภาษีน้ำมันยังคงจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 4,857 ล้านบาท หรือร้อยละ 49.3 ซึ่งเป็นผลจากการขยายเวลาลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลเหลือลิตรละ 0.005 บาท
ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 55(ตุลาคม 54— มิถุนายน 55) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,431,365 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 10,255 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.7 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.2) ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 12,543 ล้านบาท, ภาษีอากรขาเข้า จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 11,048 ล้านบาท และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 9,132 ล้านบาท
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีความผันผวนจากวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยูโรโซน แต่จากการดำเนินนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเข้าที่เร่งตัวขึ้นในอัตราที่สูง ประกอบกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ภายหลังอุทกภัย เป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ทำให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 สูงกว่าเป้าหมาย กระทรวงการคลังจึงมั่นใจว่าการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2555 นี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.98 ล้านล้านบาท