นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) กล่าวว่า IMF เตรียมจะทบทวนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)โลกอีกครั้งในวันจันทร์นี้(16 ก.ค.55) เนื่องจากมองว่าขณะนี้เศรษฐกิจในเอเชียมีแนวโน้มการเติบโตได้ดี แม้จะได้รับความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกทั้งจากยุโรปและสหรัฐฯ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในเอเชียมีความเข้มแข็งด้านฐานะการคลัง และมีศักยภาพในการดำเนินนโยบายการเงินการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดียังมี 2 ปัจจัยที่ต้องติดตามเพราะอาจส่งผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชีย คือ ปัจจัยแรกมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังไม่สามารถจัดการกับเพดานหนี้สาธารณะได้ และมีแนวโน้มจะขยายเพดานการก่อหนี้เพิ่มอีก เนื่องจากสหรัฐฯ มีข้อจำกัดในการดำเนินนโยบายต่างๆ ดังนั้นนโยบายที่สหรัฐฯ จะนำมาใช้ย่อมเป็นผลกระทบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก รวมทั้งเอเชีย เพราะหากสหรัฐฯยังใช้นโยบายขยายเพดานการก่อหนี้ซึ่งจะทำให้มีปริมาณเงินไหลเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียมากขึ้น จึงเป็นประเด็นต้องจับตา เพราะการดำเนินนโยบายต่างๆ ของสหรัฐฯ ยังมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาในประเทศเป็นหลัก
อีกปัจจัยหนึ่งมาจากสถานการณ์เศรษบกิจในยุโรปที่ยังมีปัญหาในภาคธนาคารพาณิชย์และหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูงโดยที่ยังไม่มีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากความสามารถในการรวมกลุ่มของประเทศยูโรโซนทำได้เพียงระดับหนึ่ง แต่โครงสร้างพื้นฐานของแต่ละประเทศที่แตกต่างกันในขณะที่มองว่ารัฐบาลของแต่ละประเทศในยุโรปยังไม่สามารถใช้มาตรการรัดเข็มขัดอย่างได้ผลชัดเจน
"2 ปัจจัยที่เกิดขึ้นทำให้ภูมิภาคเอเชียต้องมีการหารือร่วมกันมากขึ้น เพื่อเตรียมรับมือกับความท้าทายดังกล่าว" ผอ.ไอเอ็มเอฟ ระบุ