ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ในวันนี้มีมติลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของดีเซลลง 50 สตางค์/ลิตร เพื่อดูแลราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้ปรับเพิ่มขึ้นเกินกว่าลิตรละ 30 บาท ขณะที่ยังคงเก็บเงินจากการจำหน่ายน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ตามเดิม ซึ่งคาดว่าผู้ค้าน้ำมันในประเทศคงจะปรับขึ้นราคาขายปลีกเบนซินและแก๊สโซฮอล์ในวันพรุ่งนี้(13 ก.ค.)
นอกจากนั้น ที่ประชุม กบง.ยังเตรียมเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เพื่อให้เลื่อนกำหนดการยกเลิกจำหน่ายเบนซิน 91 ออกไปอีก 3 เดือน จากที่กำหนดให้สิ้นสุดในวันที่ 1 ต.ค.55 ซึ่งจะไปพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งในช่วงสิ้นปี 55
กบง.ระบุว่า การผลิตแก๊สโซฮอล์ออกมาทดแทนการยกเลิกเบนซิน 91 ได้รับผลกระทบจากการปิดซ่อมแซมหอกลั่นของบมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP)ที่ถูกเพลิงไหม้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ทำให้ขาดน้ำมันพื้นฐานที่ใช้เป็นจีเบส จำเป็นต้องนำเข้ามาทดแทน แต่เนื่องจากความสามารถในการรองรับการนำเข้าจีเบสจากต่างประเทศมีจำกัดอยู่แค่ 30-40 ล้านลิตร/วัน จึงเกรงว่าจะเกิดการขาดแคลน
จากการประเมินผลกระทบจากการปิดซ่อมหอกลั่นของ BCP คาดว่าในช่วงเดือน ก.ค-ก.ย.55 จีเบสสำหรับผลิตแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 จะไม่เพียงพอ โดยในเดือน ก.ค.จะขาดไป 5 ล้านลิตร , ส.ค.ขาด 59 ล้านลิตร ,และ ก.ย.ขาด 12 ล้านลิตร แม้ว่าจะหักในส่วนที่บางจากและปตท.จะนำเข้าจากสิงคโปร์แล้ว ซึ่งทางการจะมีการประกาศผ่อนผันมาตรฐานน้ำมันบางประเภทมาใช้ทดแทนจีเบส แต่ก็ยังต้องหามาชดเชยอยู่ดี โดยเฉพาะในเดือน ส.ค.จะต้องนำเข้ามาอีกอย่างน้อย 11 ล้านลิตร ซึ่งจะต้องมาพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป