กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ค. ลดลง 26,000 ราย ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ มาอยู่ที่ 350,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2551
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วลดลงจากระดับ 376,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 374,000 รายในรายงานก่อนหน้านี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการในสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ราว 370,000 ราย
ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ร่วงลง 9,750 ราย มาอยู่ที่ 376,500 ราย โดยข้อมูลนี้ถูกมองว่าสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่า เพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์
ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 14,000 ราย ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. สู่ระดับ 3.3 ล้านราย
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงอย่างมากในสัปดาห์ที่แล้วอาจจุดประกายความหวังว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากที่หยุดชะงักในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หากไม่มีการตั้งสังเกตจากเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานรายหนึ่งที่ว่า สาเหตุที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการลดลงอย่างฮวบฮาบในสัปดาห์ที่แล้วนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจัยตามฤดูกาล จึงไม่ได้หมายความว่าตลาดแรงงานได้รับแรงกระตุ้นใหม่ๆแต่อย่างใด
โดยปกติแล้ว โรงงานผลิตรถยนต์หลายแห่งจะหยุดดำเนินงานประจำปีในช่วงต้นเดือนก.ค. แต่ในปีนี้ มีโรงงานเพียงไม่กี่แห่งที่ปิดดำเนินการในช่วงดังกล่าว โดยโรงงานส่วนใหญ่ตัดสินใจผลิตรถต่อเนื่องเพื่อตอบสนองอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาด หากไม่รวมปัจจัยตามฤดูกาล พบว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานดีดตัวขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ตลาดแรงงานสหรัฐได้ส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้น โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนต.ค. แต่ความเคลื่อนไหวที่เป็นบวกดังกล่าวเริ่มส่อแววหยุดชะงักในระยะหลังมานี้ เมื่อจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์กลับมาดีดตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงเดือนเม.ย.เป็นต้นมา
ขณะเดียวกันการจ้างงานใหม่ยังส่งสัญญาณชะลอตัวด้วย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในสัปดาห์ที่แล้วว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดเพียง 80,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราว่างงานยังคงทรงตัวที่ระดับสูง 8.2%