นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้มีการสำรวจศักยภาพที่ดินครั้งสุดท้ายเมื่อ 12 ปีก่อน โดยครั้งนั้นพบว่ามีที่ราชพัสดุแปลงใหญ่ 140 กว่าแปลงที่สามารถนำมาพัฒนา อาทิ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ท่าเทียบเรือต่างๆ แต่ก็มีบางแปลงที่ติดขัดในข้อกฎหมาย เช่น พ.ร.บ. การให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือการร่วมทุน กฎกระทรวง ข้อบังคับท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งขณะนี้กรมธนารักษ์ได้พยายามผลักดันโครงการใหญ่ๆ ให้สำเร็จเช่น การพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลง บบส. (เดิม) ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม นายนริศ เห็นว่า เนื่องจากสภาพแวดล้อมและการขยายตัวของเมืองเปลี่ยนไปมากควรมีการสำรวจศักยภาพของที่ดินต่างๆ ให้ทันสมัยขึ้น จึงได้สั่งการให้มีการสำรวจศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ดินในทุกจังหวัดเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในเวลาไม่เกิน 3 เดือน
ในส่วนของการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินของรัฐ กรมธนารักษ์ ได้มีการดำเนินการเพื่อการปรับปรุงราคาประเมินของที่ราชพัสดุให้เป็นปัจจุบัน โดยได้ดำเนินการมาแล้วในหลายจังหวัดที่ไม่มีผลกระทบจากปัญหาวิกฤตอุทกภัยที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่มีการประกาศใช้บัญชีกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินและบัญชีกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์โรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง รอบบัญชีปี พ.ศ. 2555-2558 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2555 กรมธนารักษ์ ได้สั่งการให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ดำเนินการปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปีนี้