นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ยอมรับว่า สถานการณ์น้ำมันปาล์มในประเทศมีความผิดปกติจริง เนื่องจากผลผลิตปาล์มในประเทศน้อยกว่าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ไว้ จนส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบสูงขึ้นถึง 35-36บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างไรก็ดี ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในสำรวจปริมาณผลผลิตปาล์มที่แท้จริง ทั้งในส่วนของโรงกลั่นและโรงสกัด คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ พร้อมขอความร่วมมือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งกระทรวงอุตสาหกรรมลงพื้นที่สวนปาล์มตรวจสอบปริมาณผลปาล์มดิบที่มีอยู่ด้วย โดยเบื้องต้นสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบขณะนี้มีอยู่ 1.6-1.7 แสนตัน จากปริมาณสำรองเพื่อความมั่นคงที่ต้องมี2 แสนตัน แต่คาดว่าน้ำมันปาล์มจะลดลงเหลือ 1.4-1.5 แสนตัน เนื่องจากภาษีส่งออกน้ำมันปาล์ม(เซอร์ชาร์จ) ที่เรียกเก็บ 10% ได้สิ้นสุดไปแล้วเมื่อสิ้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แต่มั่นใจจะไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปาล์มเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมาแน่นอน
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า หากปริมาณน้ำมันปาล์มดิบไม่เพียงพออาจมีความจำเป็นต้องนำเข้า เพราะขณะนี้ตามกรอบกระทรวงพาณิชย์ยังสามารถนำเข้าน้ำมันปาล์มได้อีก 3 หมื่นตันตามมติคณะรัฐมนตรี โดยจะหารือกับโรงกลั่นอีกครั้งว่ามีความต้องการใช้มากน้อยเพียงใด เพื่อนำเข้ามาให้เพียงพอกับความจำเป็นเพื่อใช้ในประเทศเท่านั้น