นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ล่าสุดกรมสรรพากรกำลังพัฒนาการนำระบบการนำส่งข้อมูลธุรกรรมการซื้อขายสินค้าและบริการของเกาหลีมาปรับใช้ โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มต้องนำส่งข้อมูลสรุปรายงานภาษีซื้อและภาษีขาย(Summary table) จำแนกเป็นรายผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งจะทำให้กรมสรรพากรสามารถเชื่อมโยงข้อมูลรายการซื้อขายจากต้นน้ำไปถึงปลายน้ำได้ทั้งระบบ ทั้งผู้ประกอบการในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มและผู้ประกอบการนอกระบบภาษีด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ประเทศเกาหลี นำระบบนี้มาใช้พบว่าตัวเลขการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ส่วนกรมสรรพากรคาดว่าหากได้รับการสนับสนุนในด้านบุคลากรและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อย่างเพียงพอจะสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 30
"ปัจจุบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการค้าไร้พรมแดนส่งผลให้เกิดธุรกิจรูปแบบใหม่ขึ้นมากมาย ซึ่งทำให้ภาครัฐต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับภาคเอกชนด้วย สำหรับกรมสรรพากรเองได้ดำเนินการเสนอปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับนำเสนอนวัตกรรมการจัดเก็บภาษีใหม่ๆ ให้กระทรวงการคลังพิจารณาเป็นระยะเราตระหนักดีว่าหากยังคงรูปแบบการจัดเก็บภาษีแบบเดิมๆ รายได้ของรัฐอาจลดลง"นายสาธิต กล่าว