นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวถึงลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับมูลนิธิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และ สถาบันเพื่อพัฒนาการเกษตรและชนบท ว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพและความเป็นอยู่ของชาวนาไทย โดยเฉพาะการผลิตและพัฒนาชาวนาไทยรุ่นใหม่ เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการพัฒนาข้าวไทยให้กับประเทศและเพิ่มความยั่งยืนให้กับอาชีพการทำนา ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 3 หน่วยงาน ได้ร่วมกันถ่ายทอดความรู้ ทั้งนวัตกรรมและงานวิจัยเกี่ยวกับข้าวให้กับเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การประชุมเวทีข้าวไทยประจำปี การประชุมวิชาการข้าวแห่งชาติ และในปี 2552 ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนทุนการศึกษาสาขาวิชาการเกษตรหรือเกี่ยวข้องกับการเกษตรให้กับบุตรหลานเกษตรกร ร่วมกับมูลนิธิข้าวไทย จำนวนทั้งสิ้น 7 ทุน
สำหรับแผนความร่วมมือต่อไปของ ธ.ก.ส.กับมูลนิธิข้าวไทยและสจส.ยังคงมุ่งส่งเสริมการติดอาวุธทางปัญญาให้กับเกษตรกรไทยผ่านเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เปิดโอกาสให้เกษตรกรได้เสนอแนวคิดและความต้องการในการพัฒนาการเกษตรต่อนักวิชาการ เพื่อให้นักวิชาการรับรู้ทิศทางที่จะศึกษาวิจัยให้สอดรับกับความต้องการของเกษตรกร
นอกจากนี้ การสร้างยุวเกษตรกรลูกหลานชาวนาให้เติบโตเป็นชาวนาไทยรุ่นใหม่ โดยจะสนับสนุนให้ลูกหลานของชาวนาได้เรียนรู้ฝึกฝนสร้างทักษะด้านการเกษตร การทำนาครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกเมล็ดพันธ์ การเพาะปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว จนถึงด้านการตลาด ณ วิทยาลัยการเกษตรต่างๆ อีกทั้งส่งเสริมให้เยาวชนลูกหลานชาวนาได้เรียนรู้เทคโนโลยีและการทำนาที่ทันสมัย ผ่านระบบการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ โดย ธ.ก.ส. จะสนับสนุนทุนการศึกษาสาขาวิชาการเกษตรหรือเกี่ยวข้องกับการเกษตร
ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า ธ.ก.ส.ได้ร่วมกับสถาบันภายนอก ดำเนินโครงการต่างๆเพื่อสนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรด้านการเกษตร อาทิ โครงการผลิใบต้นกล้าการเกษตร ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โครงการทุนการศึกษาบุตรหลานเกษตรกร ร่วมกับสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร(สวก.) โครงการทุนการศึกษาด้านการเกษตรในสถาบันการศึกษาต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นต้น โดยมุ่งหวังว่าเยาวชนไทยจะตระหนักถึงความสำคัญของการเกษตร นำความรู้ วิทยาการ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ไปปรับใช้ในการสืบทอดอาชีพเกษตรกรรมของครอบครัว และพัฒนาการเกษตรในพื้นที่ภูมิลำเนาของตนเอง เป็นทายาทผู้สืบทอดอาชีพเกษตรกรรมที่มีศักยภาพต่อไป