สกุลเงินยูโรร่วงลง 0.6% สู่ระดับ 96.37 เยน ณ เวลา 08.45 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ หลังจากที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ระดับ 96.17 เยนก่อนช่วงเวลาดังกล่าว เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยูโรโซน
ยูโรอ่อนแรงลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท รายงานในวันนี้ว่า เงินเฟ้อในยูโรโซนยังคงทรงตัวอยู่ที่ 2.4% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ขณะที่เมื่อเทียบรายเดือน เงินเฟ้อยูโรโซนอยู่ที่ระดับ -0.1% ในเดือนมิ.ย.
สำหรับเงินเฟ้อรายปีของกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งมีสมาชิก 27 ประเทศนั้น อยู่ที่ 2.6% ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.5% ในเดือนพ.ค. และเงินเฟ้อรายเดือนอยู่ที่ 0.0%
ขณะที่เงินเยนยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลง 0.5% ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยยอดค้าปลีกทำสถิติร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากความต้องการสินค้าปรับตัวลดลงทุกรายการ ตั้งแต่สินค้าอิเล็กทรอนิก ไปจนถึงรถยนต์ และวัสดุก่อสร้าง
นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงปลายปี 2511 ที่ยอดค้าปลีกของสหรัฐปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นไปอย่างยากลำบาก อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวอาจเป็นแรงผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 หรือ QE3