ดัชนี Stoxx 600 ดีดตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 256.73 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3179.90 จุด ลบ 0.91 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6565.72 จุด บวก 8.62 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5662.43 จุด ลบ 3.70 จุด
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ลดลงอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนมิ.ย. และหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนในระดับหนึ่ง หลังจากซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 49.88 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 12,727.21 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.14 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 1,353.64 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 11.53 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 2,896.94 จุด
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ร่วงลงอย่างเหนือความคาดหมาย นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากการอ่อนแรงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 40 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,591.60 จุด
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 27.321 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 4.8 เซนต์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,417.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 17.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 577.85 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 7.80 ดอลลาร์
-- สัญญาน้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดู เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสสหรัฐ โดยนักลงทุนคาดหวังว่าเบอร์นันเก้อาจจะส่งสัญญาณการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 88.43 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.41-88.48 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 103.55 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 102.07-103.69 ดอลลาร์
-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ร่วงลงอยางเหนือความคาดหมาย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.21% แตะที่ 1.2276 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.2250 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.40% แตะที่ 1.5635 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5572 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.42% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.850 เยน จากระดับ 79.180 เยน และดิ่งลง 0.21% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9781 ฟรังค์ จากระดับ 0.9802 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดตัวขึ้น 0.24% แตะที่ 1.0249 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0224 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.29% แตะที่ 0.7971 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7948 ดอลลาร์สหรัฐ