นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้เห็นด้วยให้มีการประกาศขึ้นราคารับซื้อยางแผ่นดิบชั้น 3 เป็นราคา 100 บาท/กก.และยางแผ่นรมควันเป็น 104 บาท/กก.จากราคารับซื้อเดิมอยู่ในช่วง 90-95 บาท/ก.ก.โดยจะมอบหมายให้คณะอนุกรรมการในคณะกรรมการยางธรรมชาติ(กนย.)หารือเรื่องดังกล่าวในช่วงบ่ายวันนี้ และเชื่อว่าจะสามารถประกาศใช้ราคารับซื้อใหม่ได้ทันที
ทั้งนี้ รมช.เกษตรฯ มองว่าเกษตรกรชาวสวนยางจะรับได้กับราคารับซื้อใหม่ที่ได้ปรับขึ้นในครั้งนี้ แม้ว่าข้อเรียกร้องจะอยู่ที่ 120 บาท/กก.แต่ก็เป็นข้อเรียกร้องเดิมตั้งแต่ปีก่อน เกษตรกรคงจะมีเหตุผลเพียงพอที่จะพิจารณาเรื่องนี้ เพราะราคารับซื้อขณะนี้ก็เป็นไปตามข้อเท็จจริงในตลาด ซึ่งรัฐบาลยังต้องแบกรับภาระแทนเกษตรกรไว้ด้วย
ส่วนระยะเวลาโครงการพัฒนาศักยภาพเกษตรกร(โครงการ 15,000 ล้านบาท) แบ่งเป็น เงินงบประมาณสำหรับให้องค์การสวนยาง(อสย.) รับซื้อยางจากเกษตรกร 10,000 ล้านบาท และเงินสินเชื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกยางอีก 5 พันล้านบาท ซึ่งจะสิ้นสุดเดือน มี.ค.56 ซึ่งเงินในส่วนของ อสย.นั้นใช้ไปแล้วกว่า 2 พันล้านบาท เหลืออีกกว่า 7 พันล้านบาท
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เมื่อโครงการ 15,000 ล้านบาทสิ้นสุดลง หากจะมีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับยางพาราจะต้องมีการพิจารณาราคาขายและราคารับซื้อตามการคำนวณผลกำไร-ขาดทุน ซึ่งที่ประชุมเห็นว่ารัฐบาลควรจะระบายสินค้าในสต็อกในราคาที่ไม่ขาดทุนออกไปก่อน และหากจำเป็นต้องดำเนินการใดๆ ก็ให้ขอความเห็นชอบจาก ครม.เป็นรายกรณีไป
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.อนุมัติในหลักการให้องค์การสวนยางดำเนินการซื้อยางภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางในราคาชี้นำตลาดในวงเงิน 10,000 ล้านบาทต่อไป เพื่อสร้างความมั่นใจกับกนย.ซึ่งจะประชุมในบ่ายวันนี้เกี่ยวกับการซื้อยางพาราในราคาชี้นำตลาด เพราะหากขาดทุน รัฐบาลพร้อมชดเชยให้