สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) หลังจากนางอังเกลาร์ แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของยูโรโซน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากการที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.155 แตะที่ 1.2275 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2293 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.01% แตะที่ 1.5651 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5652 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.34% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.770 เยน จากระดับ 79.040 เยน แต่ดีดตัวขึ้น 0.12% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9780 ฟรังค์ จากระดับ 0.9768 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.47% แตะที่ 1.0359 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0311 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.27% แตะที่ 0.7996 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7977 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรอ่อนแรงลงหลังจากนายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของยูโรโซน และแสดงความไม่มั่นใจว่าโครงการของยุโรปจะประสบความสำเร็จ
ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากเบอร์นันเก้แถลงต่อคณะกรรรมาธิการด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า แม้เขามีความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ แต่เขาไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับเข้าสู่ภาวะถดถอย พร้อมกับยืนยันว่าเฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการต่างๆที่จำเป็น แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เบอร์นันเก้ไม่ได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าเฟดจะใช้มาตรการ QE3 หรือไม่
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 6.9% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. สู่ระดับ 760,000 ยูนิต และพุ่งขึ้นถึง 23.6% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวขึ้น
ส่วนเงินปอนด์อ่อนแรงลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของอังกฤษเพิ่มขึ้น 6,100 รายในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 6,900 รายในเดือนพ.ค. ซึ่งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในเดือนมิ.ย.นับว่าเพิ่มขึ้นมากเกินคาด เมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเพิ่มขึ้น 5,000 ราย
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปในวันนี้ โดยอิตาลีจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ขณะที่ยูโรสแตทจะเปิดเผยยอดดุลการชำระเงินของกลุ่มยูโรโซนเดือนพ.ค. และอังกฤษจะเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมิ.ย. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย.