สถาบันความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของจีน (CAITEC) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยเศรษฐกิจในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การนำเข้าและการส่งออกของจีนอาจชะลอตัวต่อไปในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาได้ส่งผลต่อยูโรโซนไปจนถึงบรรดาประเทศเกิดใหม่
ในเดือนมิ.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของประเทศเศรษฐกิจหลัก ซึ่งรวมถึงสหรัฐ ยูโรโซน และญี่ปุ่น ต่างร่วงลงต่ำกว่า 50% ซึ่งเป็นเส้นแบ่งที่บ่งชี้ว่าสภาพการณ์สดใสหรือย่ำแย่
ส่วนดัชนี PMI ของจีนในช่วงไตรมาส 2 นั้น ก็ลดลง 0.2% จากไตรมาสแรก มาอยู่ที่ระดับ 51.3%
รายงานระบุว่า นอกจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาแล้ว การกีดกันทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในตลาดทั่วโลกยังส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศของจีนด้วย
ทางสถาบันคาดการณ์ว่า การส่งออกของจีนจะยังคงชะลอตัวในระยะสั้น โดยในเดือนมิ.ย.นั้น อัตราการขยายตัวของการค้าทั่วไปและการค้าเพื่อแปรรูปต่างหดตัว 7.3% และ 9.2% ตามลำดับเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. สะท้อนถึงอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอและเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา
ขณะเดียวกันรายงานระบุว่า คงต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่การนำเข้าของจีนจะฟื้นตัว หลังจากที่ดัชนีการนำเข้าซึ่งเป็นดัชนีย่อยของ PMI ลดลง 4 เดือนรวด โดยการนำเข้าในช่วงครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจจีน
อย่างไรก็ดี การค้าระหว่างประเทศของจีนมีแนวโน้มขยายตัวตามเป้าในปีนี้ที่ 10% เนื่องจากจีนยังมีความแข็งแกร่งในการแข่งขันในตลาดโลก และมาตรการกระตุ้นการค้าที่จีนใช้อย่างต่อเนื่องน่าจะเริ่มให้ผล หากเศรษฐกิจโลกไม่ย่ำแย่ลงไปกว่านี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน