นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการจัดทำแนวทางการตรวจสอบธุรกิจของคนต่างด้าว ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ระหว่างดำเนินการว่า เป็นการป้องกันต่างชาติซึ่งเป็นประเทศที่สามที่ไม่ใช่ประเทศสมาชิกอาเซียนมาลงทุนตั้งบริษัทในอาเซียน เพื่อใช้สิทธิ์ประโยชน์การเปิดเสรีบริการในอาเซียนมาลงทุนธุรกิจในไทยโดยได้สิทธิเท่าเทียมกับชาติอาเซียน หรือการเป็นอาเซียนเทียมและกอบโกยผลประโยชน์จากไทยออกนอกประเทศ
ดังนั้นไทยจึงต้องเร่งปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อรักษาเสถียรภาพของประเทศไว้ โดยหลังจากที่จัดทำแนวทางปฏิบัติเสร็จจะแจ้งไปยังหน่วยงานที่มีกฎหมายเฉพาะดูแลในธุรกิจธนาคาร, ตลาดหลักทรัพย์, โทรคมนาคม นำไปเป็นแนวทางในการตรวจสอบด้วย เพราะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นนอมินี
"ได้สั่งการให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศชี้แจงอาเซียนว่าไทยจะออกแนวทางปฏิบัติดังกล่าว เพื่อดูแลธุรกิจภายในประเทศ และปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง รวมทั้งประเทศอาเซียนอื่นด้วย โดยไม่ต้องการให้ประเทศที่สามมาตั้งบริษัทในอาเซียนแบบลอยๆ เพื่อมาใช้สิทธิ์ลงทุนในไทย เมื่อขาดทุนก็ปิดบริษัทหนีไป หรือกำไรก็ขนเงินทุนออกนอกประเทศ ซึ่งเป็นพฤติกรรมถือหุ้นไขว้ 3 ชั้น ดังนั้นไทยและอาเซียนมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการให้ผลประโยชน์กับประเทศที่สามได้" นายยรรยง กล่าว
สำหรับแนวทางปฏิบัติการตรวจสอบธุรกิจคนต่างด้าวที่กำลังจัดทำอยู่นั้น นอกจากจะตรวจสอบเส้นทางเงิน สิทธิ์ในการครอบงำกิจการของคนต่างด้าวแล้ว ยังให้นำแนวทางปฏิบัติการปฏิเสธให้สิทธิประโยชน์แก่นิติบุคคลสัญชาตินอกอาเซียน ภายใต้กรอบความตกลงด้านบริการอาเซียนไปใช้ด้วย เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิเสธการให้สิทธิประโยชน์ต่อผู้ให้บริการต่อนิติบุคคลนอกอาเซียน หากไม่ได้เป็นนิติบุคคลจัดตั้งตามกฎหมายของอาเซียน หรือเป็นนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจในประเทศสมาชิกอาเซียนน้อยกว่า 5 ปี เป็นต้น