สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) ทำสถิติปิดบวกวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ดีดขึ้น 9.6 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 1,580.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 27.217 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.2 เซนต์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,423.10 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 18.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 584.85 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.30 ดอลลาร์
สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัย โดยมีรายงานว่าเกิดเหตุปะทะกันในเมืองดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรียเมื่อวานนี้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่กลุ่มฝ่ายค้านในซีเรียได้ก่อเหตุลอบวางระเบิด จนทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของซีเรียเสียชีวิตหลายคน
นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุลอบวางระเบิดรถโดยสารพร้อมด้วยนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก สถานการณ์ดังกล่าวได้นำไปสู่ประเด็นทางการเมืองทันที เมื่ออิสราเอลระบุว่า อิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในครั้งนี้
ตลาดทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้นหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นด้วย