ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วง หลังสหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ

ข่าวต่างประเทศ Friday July 20, 2012 07:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังจากรมว.คลังเยอรมนีได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาคธนาคารสเปน

ค่าเงินยูโรอ่อนแรงลง 0.11% แตะที่ 1.2269 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.2283 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.42% แตะที่ 1.5718 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5653 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.25% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 78.580 เยน จากระดับของวันพุธที่ 78.780 เยน และดีดขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิส แต่ขยับขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9787 ฟรังค์ จากระดับ 0.9777 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.57% แตะที่ 1.0421 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.0362 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.31% แตะที่ 0.8025 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8000 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐลดลง 0.3% แตะที่ 95.6 จุดในเดือนมิ.ย. ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.1%

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ก.ค. ดีดขึ้น 34,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2554 มาอยู่ที่ระดับ 386,000 ราย จากระดับ 352,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า และสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. ร่วงลง 5.4% แตะที่ 4.37 ล้านยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน

นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังร่วงลงหลังจากนายวูล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนีได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาคธนาคารของสเปน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่รัฐสภาเยอรมนีมีมติอนุมัติแผนการนำเงิน 1 แสนล้านยูโรจากกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ออกมาให้ความช่วยเหลือภาคธนาคาร

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปยังคงส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาด โดยเมื่อวานนี้สมาพันธ์ผู้ค้าปลีกแห่งอิตาลี (Confcommercio) เปิดเผยว่า แรงกดดันทางการคลังในอิตาลีเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในโลก โดยภาระทางการคลังของอิตาลีอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 55% ของรายได้จากการจัดเก็บภาษีในปีนี้ ตามด้วยเดนมาร์กที่ 48.6% ฝรั่งเศส 48.2% และสวีเดน 48%

รายงานระบุว่า ภาระทางการคลังของอิตาลีไม่เพียงแต่มีอันดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในยุโรปเท่านั้น แต่ยังสูงกว่าญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาอยู่มาก โดยแรงกดดันทางการคลังของญี่ปุ่นและสหรัฐอยู่ที่ 30.6% และ 26.3% ตามลำดับ

นักลงทุนจับตาดูรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนมิ.ย.ของเยอรมนีเดือนมิ.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ เวลา 13.00 น. ตามเวลาไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ