ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองต่างก็พุ่งทำสถิติสูงสุดรอบใหม่หลังเกิดภัยแล้งในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ โดยราคาถั่วเหลืองที่ตลาดชิคาโก้พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่สหรัฐกำลังเผชิญกับภัยแล้งครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2499 ซึ่งส่งผลให้ราคาอาหารอาจจะขยับสูงขึ้น
สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพฤศจิกายนที่ตลาด CBOT เพิ่มขึ้น 1.7% แตะที่ 16.48 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 1.3% แตะที่ 7.945 ดอลลาร์/บุชเชล หลังแตะที่ 7.98 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของสัญญาข้าวโพดอยู่ที่ 7.9925 ดอลลาร์/บุชเชล โดยราคาพุ่งขึ้นแล้ว 57% นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในขณะที่สัญญาส่งมอบเดือนกันยายน ทะยานขึ้นสูงถึง 8.115 ดอลลาร์/บุชเชลเมื่อวานนี้
ราคาถั่วเหลืองแตะที่ 16.5125 ดอลลาร์ต่อบุชเชลในการซื้อขายบนกระดานอิเล็กทรอนิกที่ตลาดชิคาโก้เมื่อวานนี้ โดยทะลุระดับสูงสุดในครั้งก่อนที่ 16.3675 ดอลลาร์ที่ทำไว้เมื่อ 3 กรกฎาคม 2551 ในขณะที่ราคาข้าวโพดก็ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 เช่นเดียวกัน และต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไม่ถึง 1%
ทั้งนี้ สหรัฐประกาศให้พื้นที่ 1,300 เขตใน 29 รัฐเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากจากภัยแล้ง ซึ่งส่งผลให้แหล่งเพาะปลูกข้าวโพดและถั่วเหลืองได้รับความเสียหายร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2531 โดยข้อมูลสถิติของกระทรวงเกษตร (USDA) บ่งชี้ว่าผลผลิตข้าวโพดเสียหายไปถึง 31%
นอกจากนี้ USDA ยังปรับลดประมาณการผลผลิตข้าวโพดในปีนี้ลง 12% เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าปริมาณผลผลิตอาจแตะ 1.297 หมื่นล้านบุชเชล จากเดิมที่คาดไว้ที่ 1.479 หมื่นล้านบุชเชล