นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการยางร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด จำนวน 47 จังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำภายใต้โครงการ 15,000 ล้านบาท ว่า ได้มีการแจกคู่มือรายละเอียดโครงการเพื่อนำไปชี้แจงต่อเกษตรกรผู้ปลูกยางต่อไป พร้อมมอบนโยบายและสรุปสถานการณ์ราคายางพาราทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะวิกฤตเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรป และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยเห็นว่าสถานการณ์ยางพาราในประเทศผูกพันกับเศรษฐกิจโลก ซึ่งล่าสุดค่าเงินยูโรตกต่ำที่สุดในรอบ 12 ปี ส่งผลกระทบต่อตลาดราคายางที่ ญี่ปุ่น และเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยราคายางวันนี้ที่ตลาดหาดใหญ่ลดลง 1.50 บาท
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรต่อไป พร้อมทั้งจะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรปและเศรษฐกิจโลก เพื่อประเมินสถานการณ์ในอนาคต โดยในวันพรุ่งนี้จะรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นและจะรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เพื่อหามาตรการในการแก้ไขปัญหาต่อไป
สำหรับการประชุมในวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดส่วนใหญ่นั้นให้การตอบรับมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางของรัฐบาล ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเพื่อให้เกิดความเข้มแข็งมากขึ้น แต่มีข้อสังเกตว่า เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการยังขาดความเชี่ยวชาญทางธุรกิจ จึงให้หน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าไปดูแลและทำความเข้าใจ พร้อมทั้งต้องการให้องค์การสวนยาง (อสย.) เพิ่มจุดรับซื้อยางพาราให้กระจายตัวมากขึ้น ซึ่งได้สั่งการให้องค์การสวนยางรับไปดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ รวมทั้งการเพิ่มโกดังเก็บผลผลิตยางที่ซื้อมาจากเกษตรกร ส่วนการพิจารณาขายยางพาราที่รับซื้อจากเกษตรกรนั้น อนุญาตให้ขายแก่ผู้ผลิตในต่างประเทศในราคาที่ไม่ขาดทุน โดยในขณะนี้ได้มีการติดต่อเพื่อขายไปยังโรงงานที่ประเทศจีน แต่หากขายในราคาขาดทุนของอนุมัติจากที่ประชุม ครม.พิจารณาเป็นรายกรณีไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานกับกระทรวงอุตสาหกรรมวางแผนแปรรูปผลผลิตยางพาราเพื่อให้สามารถขายได้ในราคาสูง