สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และร่วงลงสู่ระดับต่ำในรอบ 11 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยน ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นว่า บรรดาผู้นำยุโรปจะคว้าน้ำเหลวในการควบคุมวิกฤตหนี้ในภูมิภาค
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.6% แตะ 1.2081 ดอลลาร์ ณ เวลา 9.16 น. ในนิวยอร์ก หลังจากที่ก่อนหน้านั้นได้ร่วงลงถึง 0.7% สู่ระดับ 1.2067 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2553 และต่ำกว่าระดับเฉลี่ยนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการใช้สกุลเงินยูโรในปี 2542 ที่ 1.2087 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ยูโรยังร่วงลง 0.9% เมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน แตะ 94.54 เยน โดยก่อนหน้านั้นได้ร่วงแตะ 94.24 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่พ.ย.2543
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปถูกจุดปะทุขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่มีรายงานเมื่อว่า แคว้นบาเลนเซียและอีกหลายเมืองของสเปนจะขอความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลกลางสเปน ส่งสัญญาณว่าสเปน ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของยูโรโซนอาจหนีไม่พ้นที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศ
ข่าวดังกล่าวยังส่งผลให้ในวันนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสเปนพุ่งสูงถึง 7.565% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการสถาปนาสกุลเงินยูโร นักวิเคราะห์ระบุว่า หากต้นทุนการกู้ยืมของสเปนไต่ขึ้นถึง 8% ก็คงไม่ใช่เพียงภาคธนาคารที่ต้องขอรับความช่วยเหลือ แต่จะเป็นเศรษฐกิจสเปนทั้งระบบ