สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะของรัฐบาลกลุ่มประเทศยูโรโซนเพิ่มขึ้นแตะระดับ 88.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ณ สิ้นสุดไตรมาสแรกปีนี้ จากระดับ 87.3% ณ สิ้นสุดไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน รายงานของยูโรสแตทระบุว่า อัตราส่วนของสหภาพยุโรป (อียู) ทั้ง 27 ประเทศ ณ สิ้นสุดไตรมาสแรกก็ได้เพิ่มขึ้นจาก 82.5% มาอยู่ที่ 83.4% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส
ทั้งนี้ ประเทศที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อจีดีพีสูงสุด ณ สิ้นสุดไตรมาสแรก ได้แก่ กรีซ 132.4% ตามมาด้วยอิตาลี 123.3% โปรตุเกส 111.7% และ ไอร์แลนด์ 108.5% ในขณะที่เอสโทเนีย บัลแกเรีย และ ลักเซมเบิร์ก มีอัตราส่วนต่ำที่สุดที่ 6.6%, 16.7% และ 20.9% ตามลำดับ
กรีซยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อจีดีพีลดลงมากที่สุดในกลุ่มอียู โดยลดลงจาก 165.4% ณ สิ้นปี 2554 ขณะที่ยูโรสแตทระบุว่า เนื่องจากเจ้าหนี้ภาคเอกชนได้ปรับลดยอดหนี้สินของรัฐบาลกรีซลง 53.5%
หากแบ่งตามประเภทหนี้สิน หลักทรัพย์อื่นๆ นอกเหนือจากหุ้นมีสัดส่วน 78.3% ของยอดหนี้สินทั้งหมดของยูโรโซน และมีสัดส่วน 79.3% ของอียู ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 3 ปี 2554 ในขณะที่สัดส่วนยอดเงินกู้ยืมอยู่ที่ 17.8% และ 15.6% ตามลำดับ สำนักข่าวซินหัวรายงาน