ผู้ประกอบธุรกิจชั้นนำในญี่ปุ่นต่างเห็นว่า ข้อเสนอนโยบายจากรัฐบาลเพื่อจำกัดการผลิตพลังงานนิวเคลียร์นั้นเป็นเรื่องที่ตัดสินใจยาก เนื่องจากข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้พิจารณาถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน
สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่นและสมาพันธ์องค์กรเศรษฐกิจแห่งคันไซได้นัดหารือกันที่กรุงโตเกียว เกี่ยวกับนโยบายข้างต้นซึ่งจะลดสัดส่วนการผลิตพลังงานนิวเคลียร์จากพลังงานทุกชนิดให้อยู่ที่ศูนย์ ในปี 2573 โดยลดลง 15% หรือ 20-25% จาก 26% ในปี 2553 ซึ่งเป็นผลมาจากความตื่นกลัวจากความเสียหายของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในเดือนมีนาคม ปี 2554
ผู้อำนวยการบริษัทฮิตาชิ โซเซน นายทาคาชิ ทานิโช กล่าวว่าข้อเสนอที่ขอให้ใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเพื่อลดการผลิตพลังงานนิวเคลียร์นั้นถือเป็นเรื่อง “เสี่ยงตาย" สำหรับบริษัทขนาดเล็กที่มีกำไรไม่มาก
ในขณะเดียวกันผู้บริหารระดับสูงจากสถาบันนโยบายสาธารณะแห่งศตวรรษที่ 21 นายอากิฮิโระ ซาวะเห็นว่าเป้าหมายที่จะเร่งผลิตพลังงานหมุนเวียนมาใช้อย่างพลังงานไฟฟ้าให้ได้ในสัดส่วน 25-35% จากประมาณ 10% ณ ปัจจุบันนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
พนักงานจากบริษัทพัฒนาพลังงานไฟฟ้าได้กล่าวโจมตีรัฐบาล ในกรณีที่ขอให้ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าหลีกเลี่ยงการแสดงความเห็นต่อนโยบายดังกล่าวในการทำประชาพิจารณ์ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน