กลุ่มทรอยก้า ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี), ธนาคากลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะเดินทางถึงกรุงเอเธนส์ในวันนี้ เพื่อประเมินว่ากรีซสามารถทำตามคำมั่นสัญญาต่างๆที่ให้ไว้ได้หรือไม่ รวมถึงการปฏิรูปเศรษฐกิจและการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดการเงินวิตกกังวลว่า กรีซอาจจะไม่ได้รับเงินกู้เบิกจ่ายงวดต่อไปมูลค่า 3.15 หมื่นล้านยูโร ซึ่งมีกำหนดจะได้รับภายในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งหากกลุ่มทรอยก้าพบว่า กรีซไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาในเรื่องการปรับลดงบประมาณ กรีซก็อาจจะต้องถูกบีบให้ออกจากกลุ่มยูโรโซน
นายวูลฟ์กัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนี กล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Bild ของเยอรมนีในวันนี้ว่า กรีซจะต้องหลีกเลี่ยงการประวิงเวลาในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจตามที่ระบุไว้ในข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน พร้อมกับกล่าวว่า กรีซควรจะเร่งสร้างความแข็งแกร่งด้านการคลังและปฏิรูปเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กรีซจะออกจากกลุ่มยูโรโซน จนกว่ากลุ่มทรอยก้า จะเสร็จสิ้นการรายงานสถานการณ์ด้านการคลังในเชิงลึกของกรีซภายในสัปดาห์นี้
มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปิดเผยหลังจากที่ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์กว่า การตัดสินใจปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของทั้ง 3 ประเทศในครั้งนี้ มูดีส์พิจารณาจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นว่า กรีซอาจจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซน ซึ่งจะก่อให้เกิดภาวะ "วิกฤตการณ์ภาคการเงินแบบลูกโซ่" และจะทำให้เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก และประเทศอื่นๆที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุดนั้น ต้องแบกรับภาระในการให้ความช่วยเหลือ