อนุฯ BOI อนุมัติ 28 โครงการ ฟื้นฟูลงทุนจากอุทกภัย มูลค่า 1.6 หมื่นลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 24, 2012 15:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะอนุกรรมการเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากอุทกภัยอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจำนวน 28 โครงการ เงินลงทุนรวม 16,010.8 ล้านบาท ในจำนวนนี้มี 22 โครงการยังลงทุนในที่ตั้งเดิมเพราะมั่นใจแผนรับมือน้ำท่วม ส่วนอีก 3 โครงการขอย้ายที่ตั้งใหม่แต่ยังเก็บที่ตั้งเดิมไว้รอลงทุน ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในกลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสติก และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัยได้อนุมัติให้การส่งเสริมแก่ 28 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 16,010.8 ล้านบาท

ทั้งนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มแรก เป็นโครงการฟื้นฟูกิจการที่เสียหายจากอุทกภัยมีจำนวน 26 โครงการ เงินลงทุนรวม 10,794.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งกิจการในสถานที่เดิม 22 โครงการ ย้ายไปสถานที่ใหม่ 3 โครงการ และดำเนินการในสถานที่เดิมควบคู่กับเพิ่มสถานที่ตั้งใหม่ 1 โครงการ ได้แก่

1.กิจการผลิตข้าวคัดคุณภาพของบริษัท ซีแอนด์เอ ไรซ์มิล จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 38.1 ล้านบาท กำลังผลิตปีละประมาณ 21,600 ตัน โดยจะรับซื้อข้าวสารหอมมะลิที่ผ่านการขัดสีแล้วจากโรงสีข้าวในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมาผ่านกระบวนการคัดคุณภาพ ตั้งโรงงานที่เขตอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี

2.กิจการเคลือบผิว(SURFACE TREATMENT) ของบริษัท ชินเซอิ(ประเทศไทย) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 104.6 ล้านบาท กำลังผลิตปีละประมาณ 120,849 ตัน หรือ 1,024,800,000 ชิ้น โดยนำชิ้นงานโลหะมาเข้ากระบวนการเคลือบผิวด้วยโลหะ เช่น นิกเกิล โครเมียม ทอง พาลาเดียมและดีบุก เพื่อเพิ่มคุณสมบัติของชิ้นงานโลหะให้แข็งแรงเพิ่มขึ้น ตั้งโรงงานที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

3.กิจการผลิตชิ้นส่วนสำหรับยานพาหนะของบริษัท เอฟ-เทค เอ็มเอฟจี(ไทยแลนด์) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,179.1 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 5,500,000 ชิ้น โดยชิ้นส่วนยานพาหนะที่ได้จะผ่านการปั๊มขึ้นรูปและการเชื่อมประกอบ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนโครงรถยนต์เป็นหลัก เช่น SUBFRAME, LOWER & UPPER ARM, AXLE BEAM, ARM TRAILING ฯลฯ ตั้งโรงงานที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

4.กิจการผลิตชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูปประเภทเฟือง และ BALANCE WEIGHT ของบริษัท มิยาเกะ เซกิ(ไทยแลนด์) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 195.5 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 1,0008 ตัน หรือ 1,440,000 ชิ้น โดยชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูปนี้จะเป็น ชิ้นส่วนเพื่อใช้ในเครื่องยนต์สำหรับเครื่องจักรเพื่อการเกษตร และเครื่องยนต์สำหรับรถจักรยานยนต์ ตั้งโรงงานที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

5.กิจการผลิตวงล้ออลูมิเนียมอัลลอยของบริษัท โคเซ่ อลูมินัม(ประเทศไทย) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 975 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 1,200,000 วง โดยนำอลูมิเนียมแท่งมาผ่านการหลอม กลึง เจาะ ไส เจียร จนได้รูป ลูกค้าหลัก ได้แก่ บริษัทผลิตรถยนต์ในประเทศ ตั้งโรงงานที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

6.กิจการผลิตชิ้นส่วนโลหะปั๊มขึ้นรูปสำหรับฮาร์ด ดิสก์ ไดร์ฟ ของบริษัท เบรดี้ เทคโนโลยี(ประเทศไทย) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 79.37 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 925,056,000 ชิ้น ตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี เป็นการฟื้นฟูกิจการยังสถานที่ใหม่

7.กิจการผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ขยายสัญญาณและให้กระแสไฟฟ้าเดินทางเดียว(TRANSISTOR และ DIODE) ของบริษัท โรม อินทีเกรเต็ด ซิสเต็มส์(ประเทศไทย) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 330 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 2,476,160,000 ชิ้น โดยจะผลิตเพื่อการส่งออกทั้งสิ้นให้แก่บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นเพื่อนำไปจำหน่ายต่อไป ตั้งโรงงานที่เขตอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี

8.กิจการผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทตัวเก็บประจุไฟฟ้าที่มีขนาดเล็ก(TANTALUM CAPACITOR)ของบริษัท โรม อินทีเกรเต็ด ซิสเต็มส์(ประเทศไทย) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 280 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 144,000,000 ชิ้น ตั้งโรงงานที่เขตอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี

9.กิจการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภทตัวต้านทานกระแสไฟฟ้าขนาดเล็ก(MICRO CHIP RESISTOR) ของบริษัท โรม อินทีเกรเต็ด ซิสเต็มส์(ประเทศไทย) จำกัด ใช้สำหรับวงจรของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ไอโฟน ไอแพด โดยจะผลิตเพื่อการส่งออกทั้งสิ้นให้แก่บริษัท APPLE(สหรัฐอเมริกา) และ ROHM ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น เงินลงทุนทั้งสิ้น 505 ล้านบาท กำลังการผลิตประมาณปีละ 9,460,800,100 ชิ้น ตั้งโรงงานที่เขตอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี 10.กิจการผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทวงจรไฟฟ้ารวมที่ทำจากสารกึ่งตัวนำ สำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์(INTEGRATED CIRCUIT และ WAFER TESTING) ของบริษัท โรม อินทีเกรเต็ด ซิสเต็มส์(ประเทศไทย) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 595 ล้านบาท กำลังการผลิต INTEGRATED CIRCUIT ปีละประมาณ 390,620,100 ชิ้น WAFER TESTING ปีละประมาณ 8,410,000,000 ชิ้น ตั้งโรงงานที่เขตอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี

11.กิจการผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ประเภทตัวตัดวงจรไฟฟ้า(MAGNETIC RELAY)ของบริษัท พานาโซนิค แมนูแฟคเจอริ่ง(ประเทศไทย) จำกัด โดยตัวตัดวงจรไฟฟ้านี้จะใช้สนามแม่เหล็กเป็นตัวเปิด-ปิด ซึ่งใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ เตาอบไมโครเวฟ เงินลงทุนทั้งสิ้น 119.3 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 4,101,900 ชิ้น ตั้งโรงงานที่จังหวัดขอนแก่น เป็นการฟื้นฟูกิจการยังสถานที่ใหม่

12.กิจการผลิตชิ้นส่วนโลหะสำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ของบริษัท ฟูจิคุระ เอสเอชเอส จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 497.9 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ102,000,000 ชิ้น โดยจะผลิตชิ้นส่วน INTEGRATED HEAT SPREADER ที่เป็นแผ่นโลหะทองแดงมีคุณสมบัติช่วยระบายความร้อน ตั้งโรงงานที่เขตอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี เป็นการฟื้นฟูกิจการยังสถานที่ใหม่(จากเดิมสวนอุตสาหกรรมโรจนะและนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า(ไฮเทค) จ.พระนครศรีอยุธยา

13.กิจการผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับใช้ในมอเตอร์ ฮาร์ด ดิสก์ ไดร์ฟ ของบริษัท ไซโก้ อินสทรูเม้นท์(ประเทศไทย) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 825.1 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 120,000,000 ชิ้น ตั้งโรงงานที่เขตอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี นอกจากนี้ยังเพิ่มโรงงานอีก 1 แห่ง ที่นิคมอุตสาหกรรมเกต์เวย์ซิตี้ จ.ฉะเชิงเทรา

14.กิจการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของบริษัท ทรานสตรอน(ไทยแลนด์) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 92.9 ล้านบาท กำลังการผลิตรวมประมาณ 600,000 ชิ้น ตั้งโรงงานที่สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จังหวัดปทุมธานี

15.กิจการผลิตชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ที่ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าของ บริษัท เอเล็ตโต้(ประเทศไทย) จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 463.37 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 2,600,000 ชิ้น โครงการนี้จะผลิต CIRCUIT BREAKER ที่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ตัดกระแสไฟฟ้ากรณีมีกระแสไฟฟ้ากระตุกเกินกว่าค่าที่กำหนด ตั้งโรงงานที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

16.บริษัท อินเตอร์ โปรไฟล์ จำกัด ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติก และชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น บรรจุภัณฑ์ โปรไฟล์ ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์ เป็นต้น กำลังการผลิต 4,220 ตันต่อปี เงินลงทุนทั้งสิ้น 4.5 ล้านบาท ตั้งที่เขตอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี

17.บริษัท เจ.เอส.อุตสาหกรรมพลาสติก จำกัด ผลิตถุงพลาสติกต่างๆ เช่น ถุงบรรจุสินค้า และถุงขยะ กำลังการผลิต 3,650 ตันต่อปี เงินลงทุนทั้งสิ้น 18 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร

18.บริษัท อาซาฮีคาเซอิ พลาสติก(ประเทศไทย) จำกัด ผลิต Compounded Plastic กำลังผลิต 6,500 ตันต่อปี เงินลงทุนทั้งสิ้น 144 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า(ไฮเทค) จ.พระนครศรีอยุธยา

19.บริษัท มิซูโน พลาสติก จำกัด ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ เป็นต้น กำลังการผลิต 540 ตันต่อปี เงินลงทุนทั้งสิ้น 473 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา

20.บริษัท นิตโต เดนโกะ แมททีเรียล(ประเทศไทย) จำกัด ผลิต Industrial Tape สำหรับใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น กำลังการผลิต 3,500,000 ตารางเมตรต่อปี เงินลงทุนทั้งสิ้น 27 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา

21.บริษัท กลุ่มสยามบรรจุภัณฑ์ จำกัด ผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก กำลังการผลิต 15,300 ตันต่อปี เงินลงทุนทั้งสิ้น 136 ล้านบาท ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม จ. ปทุมธานี

22. บริษัท นิตโต เดนโกะ แมททีเรียล(ประเทศไทย) จำกัด ผลิตผลิตภัณฑ์จากยางสังเคราะห์สำหรับใช้เป็นชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น กำลังการผลิต 5,360 ตัน เงินลงทุนทั้งสิ้น 183.4 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา

23.บริษัท อาร์มสตรอง รับเบอร์ เทคโนโลยี(ประเทศไทย) จำกัด ผลิตผลิตภัณฑ์จากยางสังเคราะห์ สำหรับเป็นชิ้นส่วนที่ใช้ในการประกอบเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ และชิ้นส่วนในยานยนต์ กำลังการผลิต 220 ตันต่อปี เงินลงทุนทั้งสิ้น 90.2 ล้านบาท ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา

24.บริษัท เทคโน เรซิน จำกัด ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์ กำลังการผลิต 1,680 ตันต่อปี เงินลงทุนทั้งสิ้น 514.8 ล้านบาท ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา

25.บริษัท ทาเคอิ พลาสติก(ประเทศไทย) จำกัด ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ กำลังการผลิต 620 ตันต่อปี เงินลงทุนทั้งสิ้น 30.8 ล้านบาท ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

26.บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตไฟฟ้า 41 เมกะวัตต์ เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,892.4 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นการลงทุนในโครงการใหม่ในนิคมและเขตอุตสาหกรรมใน 2 จังหวัดที่ประสบอุทกภัย มี 2 โครงการ เงินลงทุนรวม 5,216 ล้านบาท ได้แก่

1.บริษัท ไทย มิคามิ จำกัด ซึ่งมีโครงการเดิมผลิตชิ้นส่วนโลหะและขยายการลงทุนเป็นโครงการ เพื่อผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ กำลังการผลิต 14 ตันต่อปี เงินลงทุนทั้งสิ้น 16 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา

2.บริษัท บางกะดี คลีน เอนเนอจี จำกัด ผลิตไฟฟ้าพลังงานแบบความร้อนร่วม(Combine Cycle Power Plant) โดยมีกำลังผลิตไฟฟ้า 127 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 30 ตันต่อชั่วโมง เงินลงทุนทั้งสิ้น 5,200 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จ.ปทุมธานี

สำหรับสถิติการยื่นขอรับการส่งเสริมตามมาตรการฟื้นฟูลงทุนจากอุทกภัยจนถึงขณะนี้มีผู้ยื่นขอรับการส่งเสริมรวม 95 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 45,760 ล้านบาท และได้อนุมัติก่อนหน้านี้แล้ว 15 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 6,994.4 ล้านบาท โดยกิจการอิเล็กทรอนิกส์เป็นกิจการที่มีมูลค่าการขอรับการส่งเสริมและมีมูลค่าการลงทุนมากที่สุด

ส่วนการลงทุนโครงการใหม่ในนิคมและเขตอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและปทุมธานี ที่เป็นจังหวัดที่ประสบอุทกภัย มีจำนวนโครงการที่ยื่นรับการส่งเสริมรวม 13 โครงการ มูลค่าการลงทุน รวม 9,747 ล้านบาท โดยมีการอนุมัติก่อนหน้านี้แล้ว 2 โครงการ มูลค่าการลงทุน 2,637 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีบริษัทได้รับการอนุมัติให้นำเข้าเครื่องจักรมาทดแทนเครื่องที่เสียหายรวม 457 โครงการ รวมมูลค่าเครื่องจักร 106,335 ล้านบาท ภายใต้มาตรการมาตรการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรที่นำเข้ามาทดแทนเครื่องจักรที่เสียหายจากอุทกภัย ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ