นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ(กนป.) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน มีมติอนุมัติให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศจำนวน 30,000 ตัน เพื่อแก้ปัญหาภาวะน้ำมันปาล์มดิบที่มีการผลิตตึงตัว และเพื่อช่วยเพิ่มน้ำมันปาล์มดิบในสต๊อคจากปัจจุบันที่เหลืออยู่ 130,000 ตัน เป็น 160,000 ตัน
โดยจะให้กระทรวงพาณิชย์นำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในวันที่ 30 ก.ค.นี้ จากนั้นจะให้องค์การคลังสินค้า(อคส.) เร่งรัดการนำเข้าให้แล้วเสร็จภายในเดือนส.ค.55
เลขาธิการ สศก. กล่าวถึงสาเหตุที่สต๊อคน้ำมันปาล์มดิบลดลงว่า เป็นเพราะสภาพอากาศที่แปรปรวนและการนำผลปาล์มดิบไปผลิตเป็นไบโอดีเซลและมีการยกเลิกเก็บค่าเซอร์ชาร์จ แต่เชื่อว่าการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ 30,000 ตัน จะเพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ เพราะหลังจากเดือนส.ค.-ก.ย. ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากขึ้นอย่างน้อย 8 แสนถึง 9 แสนตัน ซึ่งจะสามารถนำมาสกัดได้ 17% หรือ 1.3-1.4 หมื่นตัน
อย่างไรก็ดี การนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ 30,000 ตัน เป็นระดับที่เกษตรกรยอมรับได้เพราะไม่ได้สูงจนเกินไป แต่เกษตรกรต้องการให้รัฐบาลดูแลและเร่งระบายให้ได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบกับราคาผลปาล์มสดในประเทศที่ควรไม่ต่ำกว่า 5 บาท/กิโลกรัม
นอกจากนี้กระทรวงพลังงานยังได้รายงานในที่ประชุม กนป.ว่าได้ปรับลดการนำผลปาล์มดิบมาผลิตเป็นไบโอดีเซลในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย เช่น บี 5 หันมาผลิต บี 3 และบี 3.5 เพื่อช่วยแก้ปัญหาการผลิตที่ตึงตัว พร้อมกันนี้ยังขอความร่วมมือโรงกลั่นน้ำมันปาล์มดิบให้ชะลอการส่งออก และให้ผู้ผลิตหันมาผลิตใส่ขวดเพิ่มลดการผลิตใส่ถุงหรือปี๊บบางส่วน เพื่อไม่กระทบต่อตลาดบริโภคทั่วไป