ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในปีนี้ที่ 72.3 จุด จากระดับ 73.2 จุดในเดือนมิ.ย. เนื่องจากตลาดแรงงานและภาวะเศรษฐกิจส่งสัญญาณการฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย
ภาวะชะลอตัวด้านการจ้างงานของสหรัฐในไตรมาส 2 ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของบริษัทเอกชนเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์ในขณะที่เศรษฐกิจยุโรปซบเซานั้น กำลังบั่นทอนความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยของชาวสหรัฐซึ่งมีสัดส่วนราว 70% ของระบบเศรษฐกิจ
การเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่สหรัฐรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 1.5% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวราว 1.4% หลังจากที่ขยายตัว 1.9% ในไตรมาสแรก แต่เป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตรา 1.3% ในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว เนื่องจากชาวอเมริกันปรับลดการใช้จ่ายลงอย่างมาก ซึ่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจอาจจะหยุดชะงักเป็นเวลา 3 ปี หลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยสิ้นสุดลง