กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสเปนจะหดตัว 1.7% ในปีนี้ ก่อนที่จะหดตัวน้อยลงเหลือติดลบ 1.2% ในปีหน้า อันเป็นผลมาจากมาตรการล่าสุดที่รัฐบาลสเปนประกาศใช้
มาตรการต่างๆดังกล่าวรวมถึงการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) การลดสวัสดิการว่างงาน และการแปรรูปกิจการของรัฐเป็นเอกชน เพื่อประหยัดงบประมาณ 65 หมื่นล้านยูโร ซึ่งจะช่วยให้สเปนเข้าใกล้เป้าหมายในการลดยอดขาดดุลงบประมาณให้ได้ตามที่สหภาพยุโรป (อียู) กำหนด รวมทั้งยังจะช่วยให้หนี้สาธารณะของสเปนมีเสถียรภาพในระยะกลางและจะเริ่มปรับตัวลดลงในปี 2558
ไอเอ็มเอฟระบุว่า อัตราว่างงานของสเปนจะยังคงอยู่เหนือระดับ 24% ไปจนถึงปี 2557 แต่จะเริ่มลดลงสู่ระดับ 23.3% ในปี 2558, 22.1% ในปี 2559 และเหลือ 20.5% ในปี 2560
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังประเมินด้วยว่า เศรษฐกิจสเปนจะกลับมาขยายตัวได้ 0.9% ในปี 2557 และขยายตัวถึง 1.7% ในปี 2558 เมื่อพิจารณาจากตลาดหุ้นสเปนที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟระบุว่า สเปนจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเด็ดขาดในหลายด้านเพื่อรับมือกับความท้าทายเศรษฐกิจและฟื้นความเชื่อมั่นในตลาด โดยเศรษฐกิจสเปนยังคงมีแนวโน้มที่จะเผชิญสถานการณ์ยากลำบาก และอยู่ในภาวะเปราะบางต่อความเสี่ยงต่างๆ
"เศรษฐกิจได้กลับเข้าสู่ภาวะถดถอยซ้ำอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับที่สูงมากและหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว" ไอเอ็มเอฟระบุในรายงานเศรษฐกิจสเปนประจำปี
ไอเอ็มเอฟยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการดำเนินความพยายามอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนดำเนินกลยุทธ์ระยะกลางที่ชัดเจนและเชื่อถือได้เพื่อปรับภาวะการคลังให้อยู่ในสภาพสมดุล ปรับโครงสร้างภาคการเงิน และปฏิรูปเชิงโครงสร้าง
พร้อมกันนี้ ไอเอ็มเอฟยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการให้การสนับสนุนภาคธนาคารของสเปนต่อไป และแนะให้ใช้กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือถาวรสำหรับยูโรโซน ในการปรับโครงสร้างทางการเงินให้กับธนาคารพาณิชย์ที่ประสบปัญหาของสเปนโดยตรง