สำนักงานศุลกากรเกาหลีใต้ได้เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดการส่งออกยานยนต์ของเกาหลีใต้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.1% ในช่วงไตรมาสที่ 2 เทียบจากปีก่อน เนื่องจากความต้องการรถยนต์เกาหลีใต้ในตลาดสหรัฐ ออสเตรเลีย และรัสเซีย ปรับตัวสูงขึ้น
สำนักงานศุลกากรเกาหลีใต้ (KCS) ได้รายงานว่า มูลค่าการส่งออกของรถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศนั้นพุ่งสูงขึ้นอยู่ที่ 10.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.1% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ในส่วนของยอดสินค้าผู้ผลิตยานยนต์เกาหลีใต้ได้ส่งออกยานยนต์ทั้งหมดที่ 814,000 คันในช่วงเวลาดังกล่าว
KCS ชี้แจงว่า ปัจจัยที่ทำให้ยอดส่งออกรถยนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากความนิยมรถยนต์ขนาดใหญ่ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ถึง 3 ลิตร ในสหรัฐ ออสเตรเลีย และรัสเซีย โดยยอดการส่งออกรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1.5 ถึง 3 ลิตรนั้นอยู่ที่ระดับ 7.4 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสดังกล่าว
ส่วนยอดการนำเข้านั้นเพิ่มขึ้น 37.1% จากปีก่อน โดยอยู่ที่ 992 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 แต่อัตราเกินดุลการค้าสำหรับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงปรับตัวสูงขึ้น 0.6% สู่มูลค่า 9.85 พันล้านดอลลาร์ ณ ช่วงเวลาเดียวกันนี้เนื่องจากราคารถนำเข้าที่ลดลง
ทั้งนี้ ราคาเฉลี่ยต่อหน่วยสำหรับรถยนต์นำเข้าอยู่ที่ 29,469 ดอลลาร์ต่อคันในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ลดลงจากมูลค่า 30,254 ดอลลาร์ที่ 3 เดือนก่อนหน้า ราคาส่งออกเฉลี่ยนั้นปรับสูงขึ้นจาก 13,256 ดอลลาร์ต่อหน่วยในไตรมาสแรกมาอยู่ที่ 13,327 ดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2
สำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ยอดการส่งออกยานยนต์ของเกาหลีใต้ได้พุ่งสูงขึ้น 13.7% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยอยู่ที่มูลค่า 21.74 พันล้านดอลลาร์ ส่วนยอดการนำเข้าขยายตัว 9.2% ที่ 1.91 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาข้างต้น ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์มีการค้าเกินดุลที่ 19.83 พันล้านดอลลาร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน