กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า รัฐบาลกลางคาดว่าจะกู้ยืมเงิน 5.92 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐจากตลาดเพื่อใช้ในการดำเนินงานในครึ่งหลังของปีนี้ โดยถือเป็นหลักฐานล่าสุดเกี่ยวกับแรงกดดันด้านงบประมาณที่สหรัฐ ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กำลังเผชิญอยู่
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอิงแถลงการณ์ของกระทรวงการคลังที่ว่า "ระหว่างไตรมาสเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน 2555 กระทรวงคาดว่าจะออกตราสารหนี้สุทธิ 2.76 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประเมินว่าจะมีปริมาณเงินสด 6 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงสิ้นเดือนกันยายน"
และกระทรวงคาดว่าจะออกตราสารหนี้สุทธิอีก 3.16 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างไตรมาสเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม โดยน่าจะมีปริมาณเงินสด 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในสิ้นเดือนธันวาคม
จานิซ เอเบอร์ลี รมช.คลังฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจ กล่าวในแถลงการณ์อีกฉบับหนึ่งเมื่อวันจันทร์ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐซบเซาลงเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ การเติบโตถูกฉุดจากปัจจัยชั่วคราวหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงต้นปี อากาศที่อุ่นผิดปกติในฤดูหนาว และวิกฤตหนี้ยุโรปที่ยังคงยืดเยื้อ
ทั้งนี้ เอเบอร์ลี ยังระบุด้วยว่า การลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐยังถ่วงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ด้วย โดยการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางและท้องถิ่นลดลงเป็นไตรมาสที่ 11 ติดต่อกัน