รายงานระบุว่า ปริมาณการจ่ายไฟฟ้าระหว่างจัดหวัดเพิ่มขึ้น 15.18% เมื่อเทียบรายปีสู่ 1.3923 แสนล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ การจ่ายไฟฟ้าระหว่างพรมแดนแตะที่ 8.01 พันล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า 18 ภูมิภาคในจีนทำการจ่ายไฟฟ้าในครึ่งแรกของปีในปริมาณ 3.57 หมื่นล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งเท่ากับการค้าในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ธุรกรรมการค้าสิทธิ์การผลิตไฟฟ้าช่วยลดการใช้ถ่านหินลง 2.63 ล้านตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจำนวน 6.84 ล้านตัน
--ผู้แทนสภาการไฟฟ้าจีน (CEC) เปิดเผยรายงานคาดการณ์อุปสงค์และอุปทานพลังงานจีนสำหรับปี 2555 ในวันนี้ว่า อุปสงค์พลังงานจะปรับลดลงถึงจุดต่ำสุดในครึ่งหลังของปี 2555 หลังมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในจีน แต่การขยายตัวของการใช้พลังงานอาจชะลอลงมากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว
ตามที่รายงานคาดการณ์ระบุไว้ การใช้พลังงานของจีนอาจจะเพิ่มขึ้น 6-8% ต่อปีสู่ 2.6-2.65 ล้านล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงในครึ่งหลังของปี 2555 และจะมีปริมาณการใช้จำนวน 4.98-5.03 ล้านล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงสำหรับทั้งปี 2555 ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 6-7% ต่อปี
ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวเป็นการคาดการณ์ที่ต่ำกว่าความคาดหมายที่ตั้งไว้เมื่อต้นปี เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัว และความกดดันจากเศรษฐกิจที่ปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งแรกของปีเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสำรองไฟฟ้าพลังน้ำมีปริมาณที่เหมาะสม และสต๊อกถ่านหินในโรงงานผลิตไฟฟ้ายังคงมีในระดับสูง พลังงานสำรองและอุปสงค์จะคงความสมดุลระหว่างช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดในฤดูร้อน ถึงแม้ว่าทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศจะมีภาวะขาดแคลนพลังงานในช่วงที่ร้อนที่สุดก็ตาม
นอกจากนี้ CEC คาดการณ์ว่าจีนจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 86 ล้านกิโลวัตต์สำหรับทั้งปี 2555 ซึ่งรวมถึงไฟฟ้าพลังน้ำจำนวน 20 ล้านกิโลวัตต์ และไฟฟ้าพลังความร้อนจำนวน 50 ล้านกิโลวัตต์ ทั้งนี้ กำลังการผลิตพลังงานทั้งหมดของจีนอาจแตะ 1.14 พันล้านกิโลวัตต์ภายในสิ้นปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน