นายอิทธิพล ช้างหลำ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทยจำนวน 30 ราย มีเงินทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ 737 ล้านบาท และคาดจะมีการจ้างงานคนไทย 176 คน ส่งผลให้ในเดือนก.ค.55 มีจำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 42% มีเงินทุนเพิ่มขึ้น 360 ล้านบาท
ส่วนในช่วง 7 เดือนแรกปีนี้(ม.ค.-ก.ค.) ได้อนุญาตให้ต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทยแล้ว 184 ราย เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีเงินลงทุน 5,128 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 605 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจที่ได้รับอนุญาตในครั้งนี้ ได้แก่ 1.ธุรกิจบริการ 12 ราย มีเงินลงทุน 162 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่มเกี่ยวกับการให้เช่าพื้นที่อาคารให้คำปรึกษาแนะนำในด้านต่างๆ บริการทางบัญชี และบริการด้านการตลาด เป็นต้น ประเทศที่เข้ามาลงทุนได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ จีน และหมู่เกาะเคย์แมน
2.ธุรกิจสำนักงานผู้แทน 9 ราย มีเงินลงทุน 28 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจการผลิต การจำหน่าย การลงทุน การตลาด ตลอดจนความต้องการใช้สินค้าและบริการต่างๆ ในไทยให้สำนักงานใหญ่ทราบ ประเทศที่เข้ามาลงทุน ได้แก่ ญี่ปุ่น อินเดีย สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และมาเลเซีย
3.คู่สัญญากับภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจ 5 ราย มีเงินลงทุน 534 ล้านบาท เช่น บริการเป็นที่ปรึกษาเพื่อออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างอุโมงค์และท่อร้อยสายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้านครหลวง บริการด้านวิศวกรรมจัดหาวัสดุอุปกรณ์ ก่อสร้างและติดตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันให้แก่ บมจ.ปตท.สผ.(PTTEP) ประเทศที่เข้ามาลงทุนได้แก่ สิงคโปร์ และญี่ปุ่น
4.ธุรกิจนายหน้าตัวแทน 2 ราย มีเงินลงทุน 6 ล้านบาท ได้แก่ การเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายและจัดหาตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อการจำหน่ายสินค้าและพื้นที่สื่อโฆษณา ประเทศที่เข้ามาลงทุน ได้แก่ เยอรมนี และสิงคโปร์
5.ธุรกิจค้าส่ง 2 ราย มีเงินลงทุน 7 ล้านบาท เช่น การค้าส่งสินค้าที่ผลิตโดยบริษัทในเครือ ได้แก่ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ของยานพาหนะและเคมีภัณฑ์ไฮเปอร์คลีน ที่ใช้ทำความสะอาดเลนส์ และจอภาพของสินค้าต่างๆ ประเทศที่เข้ามาลงทุน ได้แก่ ญี่ปุ่น และฮ่องกง