สกุลเงินยูโรยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะนำมาใช้นั้น ส่งผลให้ช่วงบวกของสกุลเงินยูโรถูกจำกัดลง
ค่าเงินยูโรดีดขึ้น 0.35% แตะที่ 1.2303 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2260 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.22% แตะที่ 1.5675 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5709 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 78.120 เยน จากระดับ 78.150 เยน และร่วงลง 0.35% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9760 ฟรังค์ จากระดับ 0.9794 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดขึ้น 0.05% แตะที่ 1.0503 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0498 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้น 0.10% แตะที่ 0.8092 ดอลลาร์ จากระดับ 0.8084 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะใช้มาตรการผ่อนปรนทางการเงินเพิ่มเติมในช่วงวิกฤตหนี้ยุโรปและเศรษฐกิจชะลอตัว แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดอาจจะยังไม่ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3 ด้วยการซื้อพันบัตรล็อตใหญ่ในการประชุมครั้งนี้ และมีความเป็นไปได้ว่า เฟดจะชะลอการเปิดเผยแผนการซื้อตราสารหนี้รัฐบาลและที่อยู่อาศัย วงเงินรวม 6 แสนล้านดอลลาร์ ไปจนกว่าจะถึงการประชุมเดือนก.ย.
อย่างไรก็ตาม ยูโรปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าอีซีบีจะใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินในการประชุมครั้งนี้ แม้นักวิเคราะห์บางกลุ่มคาดการณ์ว่า อีซีบีจะดำเนินโครงการซื้อพันธบัตรอีกครั้ง หลังจากที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรปให้คำมั่นว่าจะปกป้องสกุลเงินยูโรและยูโรซน
สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท เปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ของยูโรโซนยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 11.2% ขณะที่อัตราว่างงานในสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งมีสมาชิก 27 ประเทศ ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ค.เช่นกัน โดยอยู่ที่ระดับ 10.4% ในเดือนมิ.ย.
นักลงทุนจับตาดูการกรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของหลายประเทศในยุโรปในวันนี้ รวมถึงอิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี และยูโรโซน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ โดย ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนก.ค., กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมิ.ย. และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนก.ค.