ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วง เหตุนักลงทุนผิดหวังผลประชุมอีซีบี

ข่าวต่างประเทศ Friday August 3, 2012 07:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ไม่ได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าจะใช้มาตการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน ในการประชุมเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้รับแรงกดดันจากการเพิ่มขึ้นของตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.39% แตะที่ 1.2176 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.2224 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.17% แตะที่ 1.5509 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5535 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.28% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 78.210 เยน จากระดับ 78.430 เยน แต่พุ่งขึ้น 0.39% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9862 ฟรังค์ จากระดับ 0.9824 ฟรังค์ สกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจาก อีซีบีตัดสินใจตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยนายมาริโอ ดรากิ ประธานกล่าวภายหลังการประชุมว่า อีซีบีจะร่วมมือกับรัฐบาลในประเทศต่างๆเพื่อเข้าซื้อพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีและสเปนในตลาดเปิด แต่ถ้อยแถลงดังกล่าวยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล เพราะแถลงการณ์เมื่อวานนี้สวนทางกับที่นายดรากิให้คำมั่นสัญญาหนักแน่นว่า จะใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อป้องกันการล่มสลายของยูโรโซน

แถลงการณ์ของอีซีบีระบุว่า อีซีบีตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.75% เพราะต้องการประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อและเศรษฐกิจของยูโรโซนจะชะลอตัวลงอีกหรือไม่ ก่อนที่อีซีบีจะตัดสินใจเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหม่ โดยอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือนก.ค.ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ 2.4% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของ ECB ที่ระดับต่ำกว่า 2%

นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ก.ค.เพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 365,000 ราย จากระดับ 357,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ก.ค.

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 100,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 8.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ