ผลการสำรวจของทีดี ซิเคียวริตี้ส์ และสถาบันเมลเบิร์นเพื่อการวิจัยเศรษฐศาสตร์ประยุกต์และสังคม พบว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนกรกฎาคม ถึงแม้ว่าต้นทุนพลังงานเพิ่มสูงขึ้นจากการบังคับใช้ภาษีคาร์บอนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ดัชนีเงินเฟ้อรายเดือนของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนกรกฎาคม หลังจากที่ลดลง 0.2% ในเดือนมิถุนายน
สำหรับในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนกรกฎาคม อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี
ทีดี ซิเคียวริตี้ส์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม มาจากการปรับตัวขึ้น 10.3% ของค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลพวงจากการบังคับใช้ภาษีคาร์บอน ประกอบกับการปรับตัวขึ้นของราคาสุราและบุหรี่ หนังสือพิมพ์ หนังสือ และเครื่องเขียน
นางแอนเนตต์ บีชเชอร์ หัวหน้านักวิจัยประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ของทีดี ซิเคียวริตี้ส์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า แรงกดดันด้านราคา ที่ไม่รวมผลกระทบฉับพลันของภาษีคาร์บอนนั้น ยังคงอ่อนแรง
"เราจะติดตามอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องเพื่อประเมินสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับโอกาสในการปรับตัวขึ้นของราคา" นางบีชเชอร์กล่าว
นอกจากนี้ นางบีชเชอร์ยังระบุว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่มีอัตราการขยายตัวที่สูงกว่าแนวโน้ม และมีอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ
นางบีชเชอร์คาดว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะตรึงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้ที่ 3.5% ในการประชุมคณะกรรมการการเงินประจำเดือนสิงหาคมในวันพรุ่งนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน