ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่นายกรัฐมนตรี มาริโอ มอนติ ของอิตาลี เตือนว่า ความแตกต่างและแตกแยกในยูโรโซนอาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของสหภาพยุโรป (อียู) นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังเคลื่อนไหวผันผวน หลังมีการเปิดเผยรายงานที่แสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรร่วงลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนส.ค.
ยูโรอ่อนค่าลง 0.1% แตะ 97.08 เยน ณ เวลา 20.38 น.ตามเวลาประเทศไทย หลังจากที่แตะ 97.80 ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ ขณะเดียวกันยูโรขยับลงแตะ 1.2395 ดอลลาร์สหรัฐ จากก่อนหน้านี้ที่ปรับตัวขึ้นถึง 0.5% แตะ 1.2444 ดอลลาร์
นายกรัฐมนตรี มาริโอ มอนติ ของอิตาลี เตือนถึงความเป็นไปได้ที่ยุโรปจะแตกสลาย หากไม่มีการดำเนินการเร่งด่วนกว่านี้เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลหลายประเทศในภูมิภาค ขณะที่การให้ความช่วยเหลือของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แก่อิตาลีและสเปนเผชิญภาวะชะงักงันมากขึ้น
มอนติแสดงความเห็นดังกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Der Spiegel ของเยอรมนี โดยระบุว่า ความคิดเห็นที่ไม่ลงร้อยกันในหลายๆเรื่องภายในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 17 ประเทศ กำลังเบี่ยงเบนการดำเนินนโยบายแก้ไขวิกฤตหนี้และกำลังบ่อนทำลายอนาคตของสหภาพยุโรป (อียู)
"ความตึงเครียดที่ก่อตัวขึ้นในยูโรโซนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กำลังแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของความแตกแยกทางจิตวิทยา" มอนติกล่าว พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ปัญหาต่างๆจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วในทันที เพื่อที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสามารถของยูโรโซนในการแก้ไขวิกฤตจะได้หมดไปและไม่เกิดขึ้นอีก