เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมวิจัยด้านรายได้และความมั่นคั่งระหว่างประเทศ ที่เมืองเคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ โดยระบุว่า แม้มีสัญญาณบ่งชี้มากมายว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว แต่ประชาชนและธุรกิจจำนวนมากก็ยังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก
เบอร์นันเก้กล่าวว่า แม้มีดัชนีต่างๆซึ่งรวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค รายได้ และความมั่งคั่งในภาคครัวเรือน บ่งชี้ถึงทิศทางการฟื้นตัว แต่ภาคเอกชนและภาคครัวเรือนยังคงเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเงิน อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้ไม่ได้กล่าวถึงแนวโน้มของนโยบายการเงิน หรือกล่าวถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.ค.ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด 163,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นแตะระดับ 8.3%
การแสดงความคิดเห็นครั้งล่าสุดของเบอร์นันเก้สอดคล้องกับที่เขาได้แสดงมุมมองเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการร่วมทางเศรษฐกิจแห่งสภาคองเกรสเมื่อไม่นานมานี้ว่า วิกฤตหนี้ยุโรปที่ทวีความรุนแรงขึ้นนั้น ได้ส่งให้ระบบเศรษฐกิจและแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างมาก
เบอร์นันเก้ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะ และเสถียรภาพของธนาคารพาณิชย์ในหลายประเทศของยูโรโซน ซึ่งปัญหาเหลานี้ยังคงสร้างความตึงเครียดให้กับตลาดการเงินทั่วโลก
"วิกฤตหนี้ยุโรปได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐด้วยการฉุดรั้งอุตสาหกรรมส่งออกของเรา อีกทั้งยังบั่นทอนความเชื่อมั่นทางธุรกิจและผู้บริโภค และยังสร้างแรงกดดันให้กับตลาดการเงินและสถาบันต่างๆในสหรัฐด้วย" เบอรนันเก้กล่าว