ผู้เชี่ยวชาญจีนกล่าวก่อนกำหนดการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจในวันพฤหัสบดีนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนมีแนวโน้มที่จะคลายตัวลงอีกในเดือนกรกฎาคม
รายงานของธนาคารอุตสาหกรรมจีนระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ซึ่งเป็นปัจจัยชี้วัดหลักของภาวะเงินเฟ้อคาดว่า จะขยายตัว 1.7% เมื่อเทียบรายปีในเดือนกรกฎาคม ซึ่งต่ำกว่าอัตราการขยายตัวที่ 2.2% เมื่อเดือนมิถุนายน เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวและฐานเปรียบเทียบที่สูงขึ้นจากเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าราคาอาหาร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบหนึ่งในสามของราคาทั้งหมดที่ใช้คำนวณตัวเลข CPI ของจีน จะทรงตัวในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากผลผลิตภายในประเทศที่ดีในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีแนวโน้มที่จะช่วยถ่วงดุลเงินเฟ้อจากต่างประเทศที่อาจจะเกิดขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากภัยแล้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ที่สุดของโลก จะส่งผลกระทบต่อราคาธัญพืชในจีนไม่มากนัก เนื่องจากจีนอาจเพิ่มการนำเข้าธัญพืชจากบราซิลและยูเครนแทน
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ผลกระทบขั้นร้ายแรงที่สุดจากภัยแล้งในสหรัฐต่อตลาดอาหารทั่วโลกยังคงขึ้นอยู่กับผลผลิตในอเมริกาใต้ พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ป้องกันความผันผวนอย่างรวดเร็วของราคาธัญพืช
อย่างไรก็ดี ราคาธัญพืชของสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วนี้อาจส่งผลให้ราคาอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้น แต่ไม่มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาเนื้อหมูภายในประเทศให้เพิ่มสูงขึ้นในทันที
นอกจากนี้ สภาพอากาศที่เลวร้ายในฤดูกาลนี้อาจทำให้ราคาขายส่งผลผลิตจากฟาร์มเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงความผันผวนของราคาอันเกิดจากปริมาณการผลิตที่ลดลงและต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากฝนตกหนักและพายุไต้ฝุ่นได้สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ของประเทศตั้งแต่เดือนกรกฎาคม